ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ.ต่ำสุดรอบ 21 ปี “หอการค้า”รับโควิด-19/ภัยแล้ง/การเมือง กดดันจีดีพีปีนี้ 1.1% จากเดิม 2.8% ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.พ.63 อยู่ที่ 64.8 จากเดือน ม.ค.63 ที่อยู่ในระดับ 67.3 ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปี สาเหตุมาจากความกังวลการระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และปัญหาภัยแล้ง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมเดือน ก.พ.63 อยู่ที่ 52.5 ลดลงจากเดือน ม.ค.63 ที่อยู่ในระดับ 54.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำเท่ากับ 61.4 จาก 63.8 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 80.4 จาก 83.0 ทั้งนี้ปัจจัยลบสำคัญได้แก่ ความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว,สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ลงเหลือ 1.5-2.5% ขณะเดียวกันมีการเปิดเผย GDP ในไตรมาส 4/62 พบว่าขยายต่ำสุดในรอบ 5 ปี,ความกังวลสถานการณ์ภัยแล้ง,ค่าเงินบาทปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อย,ความกังวลต่อสถานการณ์ PM 2.5,ผู้บริโภคกังวลเศรษฐกิจฟื้นช้าและยังกระจุกตัว ขณะที่ปัจจัยบวกได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ปรับลดดอกเบี้ย 0.25%,พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63 ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา,การส่งออกกลับมาขยายตัวเป็นบวก 3.35% ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง ทั้งนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ลดเหลือ 1.1% จากเดิม 2.8% ส่งออกพลิกเป็นติดลบ -1% นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการในเดือนก.พ.นี้ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี 11 เดือน หรือประมาณ 21 ปี นับตั้งแต่เดือนเม.ย.42 เป็นต้นมา ทั้งนี้ดัชนีในภาพรวมยังอยู่ต่ำกว่าระดับปกติที่ 100 ซึ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมากนัก สำหรับผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างมากต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่งบประมาณรายจ่ายปี 63 ที่ล่าช้า รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง อาจเป็นปัจจัยลบซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยในอนาคตได้ ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าว ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่องไปจนถึงกลางไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นอย่างน้อย ดังนั้นรัฐบาลจึงควรดำเนินนโยบายการเงิน และการคลังผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกตัว ออกมาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตออกมาต่ำกว่าในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 40 แสดงให้เห็นว่าคนยังไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมาอาจจะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่นัก คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยอาจจะกลับมาได้ช่วงกลางไตรมาส 3