อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งตรวจสอบที่ดิน “แม่ธนาธร” ส่วนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์กรมที่ดินเพิ่มพรุ่งนี้ ยันยึดที่ดิน "ทวี ไกรคุปต์" 392ไร่ แต่ไม่ยึดบ่อจระเข้ 3 บ่อ ไว้เป็นของกลาง เพราะมิใช่ทรัพย์สินมีไว้กระทำความผิด เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สั่งการให้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีเข้าตรวจสอบที่ดินในครอบครองของนางสมพร จึงุร่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพิ่มเติม​จากที่เข้าตรวจสอบรังวัดไปแล้วครั้งหนึ่ง ตามการนำชี้ของผู้แทนนางสมพรซึ่งปรากฏว่า ครอบครองพื้นที่ 3,098 ไร่ 1 งาน 27.3 ตาราวา โดยผู้ถือครองให้ผู้แทนนำเอกสารกรรมสิทธิ์ในที่ดินมาแสดงเป็นสำเนาเอกสารตามกฎหมายที่ดิน 77 แปลงประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 43 ไร่ 64.3 ตารางวา น.ส.3ก 55 แปลง เนื้อที่ 2,012 ไร่ 2 งาน นส.3 จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ 694 ไร่ 2 งาน 63 ตาราวา และน.ส.2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ ทั้งนี้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีประสานฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชนมาร่วมตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพุร่งนี้​ (12 มีนาคม) ตามที่น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐเข้ายื่นหนังสือที่กรมป่าไม้ ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ขอให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามกฎหมายต่อนางสมพร ฝซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และเคยครอบครองที่ดินประเภท ภ.บ.ท. 5 และน.ส. 2 แม้ปัจจุบันส่งมอบให้ชุมชน แต่ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งยังมีการตัดต้นไม้หลายไร่ในที่ดินดังกล่าว โดยศูนย์ป่าไม้ราชบุรีจะตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียงกับที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ พร้อม​ทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนกรณีที่ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีแจ้งความต่อตำรวจสภ. สวนผึ้งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า พบการบุกรุกถือครองพื้นที่ป่าที่หมู่ 9 ต. ท่าเคย อ. สวนผึ้ง 5 แปลง เนื้อที่รวม 392 ไร่​ 3 งาน​32 ตาราง​วาซึ่งนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น (คปต.) ร้องทุกข์กล่าวโทษนายทวี ไกรคุปต์ บิดาน.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐต่อตำรวจสภ. สวนผึ้งไว้นั้น เจ้าหน้าที่​พบโรงเลื่อยไม้ในพื้นที่​ป่าไม้​จึงแจ้งความฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 84 ทั้งนี้ต้องร่วมกับพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานว่า ใครคือผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดบ้างเพื่อจับกุมและดำเนินคดี สำหรับจระเข้ในบ่อเลี้ยง 3 บ่อไม่ได้ตรวจยึดเป็นของกลางในคดีเพราะมิใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เป็นการกระทำความผิด แต่การที่ผู้ครอบครองจระเข้จะเข้าไปให้อาหารนั้น ต้องขออนุญาตต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น​จะมีการเข้าไปให้อาหารหรือผู้ใดเป็นคนเข้าไปต้องสอบถามจากพนักงานสอบสวน