วันนี้ (10 มี.ค.63) ที่บริเวณลานด้านข้าง รพ.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้มีบริษัทเอกชนมายโฮม ตั้งเต๊นส์แจกหน้ากากอนามัยแบบคุณภาพแก่ประชาชนชาว อ.ท่าศาลา และบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.ท่าศาลา โดยมีประชาชน , นักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของ รพ.ท่าศาลา ที่ทราบข่าวได้แห่กันมาขอรับกันจำนวนมาก นำบัตรประชาชนมารับแจกคนละ 1 ชิ้น โดยนายมลฑล ณ นคร ซีอีโอของมายโฮม ระบุว่า การนำหน้ากากอนามัยมาแจกครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าชาวท่าศาลายังขาดแคลนและหาซื้อไม่ได้ และมีการหวาดวิตกเนื่องจากข่าวที่มีเด็กหนุ่ม อ.ท่าศาลา ติดเชื้อ ทางบริษัทจึงไปหาหน้ากากอนามัยมาได้ 3 หมื่นชิ้น และจะทยอยแจกอาทิตย์ละ 5 พันชิ้น เพื่อให้ครบทุกคนในพื้นที่ อ.ท่าศาลา โดยครั้งนี้เมื่อเริ่มแจกไม่ถึงชั่วโมงก็มีการมารับจนหมดเกลี้ยง 5 พันชิ้น ซึ่งจะมีการแจกอีกครั้งในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ส่วนนักศึกษาไทยที่กลับมาจากอิหร่านยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่ รพ.ท่าศาลา ในพื้นที่เฉพาะโดยได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งตรวจซ้ำทุกวันจนกว่าจะพ้นภาวะการติดเชื้ออย่างมั่นใจ รวมทั้งยังรอผลการตรวจเชื้อของผู้ที่นักศึกษารายนี้ไปทักทายสัมผัสมือ ลูบใบหน้าตามการสลามทักทายแบบมุสลิมอีก 22 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่มีเชื้อเช่นเดียวกันเนื่องคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดกับนักศึกษารายนี้ 10 คนไม่มีเชื้อเช่นกัน ส่วนที่ร้าน “ที่นี่@หัวทะเล เนื้อกระทะสาขา 2” น.ส.สุกัญญา รักไทรทอง เจ้าของร้านพรอมกับพนักงานได้ระดมกันทำความสะอาดร้านอีกรอบ เพื่อเตรียมเปิดบริการในช่วงบ่ายในวันเดียวกันนี้ หลังปิดบริการมา 5 วัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกรณีที่โซเชียลแชร์ข้อมูล นักศึกษาที่จากกลับอิหร่านและติดเชื้อโควิด-19 มากินอาหารที่ร้านเมื่อวันที่ 2 มี.ค.63 ผ่านมา โดยข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้มากิน เพราะทางร้านได้ปิดบริการในวันดังกล่าวเพราะทำอาหารให้งานแต่งงานผลกระทบจากโซเชียลที่แชร์กันอย่างไม่มีข้อเท็จจริงทำให้ไม่มีลูกค้าเข้าร้านและยกเลิกการจองจำนวนมาก จึงปิดร้านและสูญเสียรายได้ไปกว่าแสนบาท ส่วนลูกจ้าง 10 กว่าคนก็ขาดรายได้ และวันนี้ (10 มี.ค.63) ร้านได้เปิดบริการตามปกติโดยจะมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดฯ จองโต๊ะมาเพื่อให้กำลังใจและสร้างความมั่นใจแก่ทางร้านด้วย น.ส.สุกัญญา กล่าว