ด่านพรมแดนไทยมาเลเซียเงียบเหงาจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากกว่าครึ่งผลพวงของไวรัสโควิด 19 จากปกติวันละ 5,000 - 10,000 คน ขณะนี้เหลือไม่ถึงครึ่งและยังมีแนวโน้มลดลงอีกขณะที่ร้านอาหาร ร้านขายของปิดกิจการแบกรับภาระไม่ไหว เมื่อวันที่ 10 มี.ค.63 บรรยากาศที่ด่านพรมแดนเบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ตรงข้ามกับด่านเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยมีเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว นักวิชาการสาธารณสุขด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง ได้ทำการตรวจผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยใช้เครื่องเทอร์โมสแกน กล้องอินฟราเรด และ เครื่องแฮนด์เทล วัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผากและหูซ้ำ รวมทั้งแนะนำให้ใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ และแจกสารประชาสัมพันธ์เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ แนะนำวิธีการป้องกันตนเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าสามารถที่จะควบคุมเชื้อไวรัสโคโรน่า ไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศไทยได้ ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งตามปกติในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และก่อนเทศกาลสงกรานต์ และ งานไก่เบตงที่จะมีขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาร่วมงานและท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังเกิดการระบาดของไวรัสโควิด19 ทำให้ตามแหล่งท่องเที่ยวเงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งมีการยกเลิกการจัดงานเทศกาลสงกรานต์และงานไก่เบตงอีกด้วย ซึ่งตามปกติจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เฉลี่ยวันละกว่า 5,000-10,000 คนและในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์จะมีการจองที่พัก โดยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ต่ำกว่า 50,000-80,000 คน โดยตั้งแต่เกิดการระบาดเชื้อไวรัสโควิด19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งและมีการยกเลิกกรุ๊ปทัวส์ต่างๆ และยังคงมีแนวโน้มอาจจะลดลงมากกว่านี้หากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด19 ยังไม่ยุติลง ขณะที่ทางการมาเลเซียมีการแยกในการเดินทางเข้าประเทศโดยเฉพาะประตูอัตโนมัติจะให้คนมาใช้ประตูคัดกรองพิเศษและได้ปิดด่านที่เป็นประตูอัตโนมัติแต่สามารถใช้พาสปอร์ตเข้าเครื่องสแกนพร้อมลายนิ้วมือ ถ้าเป็นบุคคลเดินทางมาคนเดียวกันไม้กั้นจะถูกเปิดขึ้น คนก็ผ่านเข้าขึ้นเครื่องได้ ส่วนพาสปอร์ตจะไม่มีการลงตรา(Job)ระบบจะวิ่งออนไลน์ไปปลายทางที่จะไป อย่างไรก็ตามธนาคารหรืออาคารที่มีประชาชนแออัด เจ้าหน้าที่ยังคงมีมาตรการคุมเข้มในการป้องกันไวรัสโควิด19 โดยใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เดินทางเข้ามาในอาคารหากมีไข้จนเข้าข่ายต้องสงสัยก็จะแยกตัวไปตรวจทันที ส่วนหน้ากากอนามัยในพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงขาดตลาดโดยตามร้านขายยาจะนำหน้ากากชนิดผ้ามาจำหน่ายแทย โดยมีราคาตั้งแต่ 20 -25 บาทต่อชิ้น ส่วนหน้ากากน่าโน ชิ้นละ 70 บาท หน้ากากทั้ง 2 ชนิดสามารถนำไปซักและสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก เพื่อเป็นการทดแทนหน้ากากอนามัยที่ขาดตลาด