เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายชัยเกษม นิติสิริ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ได้ร่วมประชุมหารือวาระพิเศษ จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันเกิดวิกฤติทั้งด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทั้งคนไทยหรือผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หน้ากากอนามัย ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยตัวเอง มาตรการกักตัวก็ยังสับสน “การที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ วันนี้ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ปัญหาในบ้านเมือง เป็นฟางเส้นสุดท้าย จากวิกฤติที่เกิดขึ้นทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลมีจิตสำนึก การที่ยังร่วมงานกับรัฐบาลที่ไม่สามารถจัดการปัญหากับประชาชนจะสนับสนุนรัฐบาลได้อย่างไร” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะออกจากการร่วมรัฐบาล แล้วมาสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านจนได้เป็นรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรายังมองไม่ถึงตรงนั้น วันนี้เราต้องการสะท้อนเสียงสะท้อนจากประชาชนมา ส่วนการร่วมอยู่ในรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ จึงต้องสื่อไปถามพรรคร่วมรัฐบาลแทนประชาชน   ด้าน นอ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การดำเนินการตามกฎหมาย ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพพล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังพักบ้านหลวงนั้น ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือไม่ และถ้าขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้สถานะรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ และขอให้ตรวจสอบกรณีจัดซื้อจัดจ้างเครื่องยืนยันอัตลักษณ์บุคคลหรือเครื่องไบโอเมตริกด้วย รวมทั้งไม่เสียภาษีให้รัฐจากการขายที่ดินย่านบางบอน การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฟิลิป มอรร์ริส และการจัดซื้อรถหุ้มเกราะ จากประเทศยูเครน โดยเรื่องทั้งหมดได้ยื่นให้ นายโภคิน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพิจารณาตัวเอง จะเป็นนายกฯต่อหรือไม่ และประชาชนต้องร่วมผลักดัน ร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง การที่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป บ้านเมืองไม่มีอนาคตแน่นอน หลังการอภิปราย พรรคเพื่อไทยได้ติดตามต่อ อะไรที่ไม่ถูกต้อง และถ้านายกฯยังเดินต่อไปแบบนี้ บ้านเมืองยิ่งไม่มีอนาคต