เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงมาตราการการควบคุมผู้เสี่ยงภัยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ (ผีน้อย) ว่า รัฐบาลได้มีการสั่งการให้แต่ละจังหวัดจัดหาสถานที่ในการควบคุมตัวผู้ที่เดินทางกลับมา ซึ่งปรากฎว่าหลายจังหวัดที่ได้ประกาศใช้ บ้านพักเด็กและครอบครัวของกรมการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นที่กักกันตัว ส่งผลให้คนที่อาศัยอยู่เกิดความวิตก จึงฝากไปยังผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องว่า การใช้สถานที่เช่นนี้เสี่ยงมากสำหรับเด็ก แต่สถานที่ที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในแต่ละจังหวัดมีค่ายทหาร มีโรงบาลอยู่น่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ในส่วนการบริหารจัดการเรื่องหน้ากากอนามัยถือเป็นความล้มเหลวที่สุด บุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขมีประมาณ 6-7 แสนคน แต่การผลิตหน้ากากได้ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน และมีนโยบายจัดเจนว่าจะมอบให้กระทรวงสาธารณสุข 7 แสนชิ้น แต่สิ่งที่เจอคือไม่มีหน้ากากเข้าไปมอบให้ คำถามคือหายไปไหน แต่ปรากฎข้อมูลที่น่าตกใจว่า 5 แสนชิ้นกระจายไปตามร้านสะดวกซื้อ อยากให้พี่น้องเฝ้าระวังและติดตาม”นพ.ชลน่าน กล่าว นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ขณะที่การแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาลซึ่งเมื่อวาน 9 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ไปประชุมที่กระทรวงพลังงานและได้มีการพูดถึงปัญหาภัยแล้ง ว่าจะนำเงินจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า มาช่วยปัญหาภัยแล้ง นั่นหมายความว่ารัฐบาลไม่สามารถเอาเงินส่วนอื่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สะท้อนการแก้ปัญหาที่ล้มเหลวของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังอนุมัติงบกลาง 225 ล้าน เพื่อส่งงบให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อปท.)ทั่วประเทศ 7,774 แห่ง โดยได้ไปแห่งละ 15,000 บาท ซึ่งเป้าหมายของโครงการนี้ คือให้ไปทำหน้ากากผ้า ทั้งหมด 50 ล้านชิ้น ตกชิ้นละ 4.50 บาท ซึ่งการส่งเงินไปเท่านี้ไม่สามารถจัดหาวัสดุได้ เห็นชัดว่าการบริหารจัดการของรัฐบาลมีความล้มเหลวมาก พี่น้องประชาชนขาดที่พึ่งคนที่จะต้องรับผิดชอบสูงสุดคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ถึงเวลาแล้วถ้ารู้ว่าไม่มีความสามารถพอ ก็คืนประเทศให้กับประชาชน