นายกฯ ห่วงใยประชาชนทุกคนและสัตว์เลี้ยงทุกตัวห่างไกลโรคพิษสุนัขบ้า เลี้ยง-รัก-รับผิดชอบ-ไม่ทอดทิ้ง-พาไปฉีดวัคซีนทุกปี
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เปิดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ "โครงการความร่วมมือการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปีงบประมาณ 2563 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี" โดยมีนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทยสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณด้านหน้าตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
ตามที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายในการควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังจากเกิดวิกฤติ มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าในปี 2561 ถึง 18 คน รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้บูรณาการขับเคลื่อนโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อสนองพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ มุ่งให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและสัตว์ในปี 2563 ซึ่งจากการดำเนินโครงการฯ มีผลการดำเนินงานอย่างสำเร็จ พบอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าลดลงจากปี 2561 จำนวน 18 ราย เหลือ 3 รายในปี 2562 และในปี 2563 ยังไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต
โดยปัจจัยสำคัญในการควบคุม ป้องกันและกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย ดังนี้
1.การฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นสร้างภูมิตุ้มกันโรคในสุนัขและแมวให้ครอบคลุมทั้งประเทศมากกว่า 80%
2.การสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบในการเลี้ยง ไม่ปล่อยปะหรือละทิ้งสัตว์เลี้ยงให้เป็นปัญหาของชุมชน
3.การผลิตวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าใช้เองในประเทศไทย ในปี 2567 เป็นความยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
ในปี 2563 นี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 13 ล้านโด๊ส ดำเนินการฉีดวัคซีนให้สุนัข-แมว เพื่อบริการประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม - 31 กรกฎาคม 2563 ตามที่จุดนัดหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และตระหนักความสำคัญของโรค รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ โดยร่วม "เลี้ยง-รัก-รับผิดชอบ-ฉีดวัคซีน-ไม่ทอดทิ้ง" พาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี
โดยปัจจัยสำคัญในการควบคุม ป้องกันและกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย ดังนี้
1.การฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นสร้างภูมิตุ้มกันโรคในสุนัขและแมวให้ครอบคลุมทั้งประเทศมากกว่า 80%
2.การสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบในการเลี้ยง ไม่ปล่อยปะหรือละทิ้งสัตว์เลี้ยงให้เป็นปัญหาของชุมชน
3.การผลิตวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าใช้เองในประเทศไทย ในปี 2567 เป็นความยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
ในปี 2563 นี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 13 ล้านโด๊ส ดำเนินการฉีดวัคซีนให้สุนัข-แมว เพื่อบริการประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม - 31 กรกฎาคม 2563 ตามที่จุดนัดหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และตระหนักความสำคัญของโรค รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ โดยร่วม "เลี้ยง-รัก-รับผิดชอบ-ฉีดวัคซีน-ไม่ทอดทิ้ง" พาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี