“นายกฯ” ถอยแจกเงิน 2,000 บาท หวั่น โยงการเมือง แจง เป็นที่ต้องใช้เวลา เผยชงครม.พรุ่งนี้ คืนค่ามิเตอร์ไฟแต่ละครัวเรือนแทน วันนี้ (9มี.ค.63) เมื่อเวลา 12.35 น.ที่อาคารบี ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2563 ว่า มาตรการที่ออกมาในขณะนี้นำมาคิดใคร่ครวญทั้งหมด แม้จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจ ไปแล้วก็ตาม ทุกอย่างต้องเข้าสู่การคัดกรองของคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะประกาศใช้ได้เลย หลายอย่างอาจจะยังไม่ออกมาใช้ก็ได้ แต่จะทำอย่างไรประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 และผลกระทบด้านอื่นๆ ได้รับการช่วยเหลือ “วันนี้ผมหารือกับกระทรวงพลังงานแล้ว เรื่องการจ่ายเงินคนละ 1,000 บาท จำนวน 2 เดือน ผมยังไม่จ่าย เอาไว้อีกระยะหนึ่ง ค่อยมาดู แต่วันนี้ได้พิจารณาคืนเงินให้ประชาชน ในเรื่องค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะมีการประกันอยู่มิเตอร์ละประมาณ 3,000 บาท รัฐจะคืนตรงนี้ให้ ซึ่งถือว่ามากกว่า 2,000 บาท จะได้ทุกบ้าน ยกเว้น ผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะไม่ให้ คนที่จะได้คือผู้ที่มีบ้านเป็นของตัวเอง อย่างน้อยก็ประทังไปได้ 3,000 บาท ส่วนเงิน2,000 บาทเอาไว้ว่ากันภายหลัง ส่วนจะได้หรือไม่ได้ยังไม่รู้ ต้องขอไปดูเม็ดเงินก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือกับกระทรวงพลังงานในเรื่องของค่าไฟฟ้า ค่าประปา พิจารณาดูว่าอะไรจะลดราคาได้บ้าง รวมทั้งค่าพลังงาน ค่าน้ำมัน แก๊ส จึงขอร้องว่าอย่าเพิ่งมาตีกันว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เมื่อถามว่าเรื่องมาตรการช่วยเหลือ 2,000 บาทจะนำมาพิจารณาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องมาตรการช่วยเหลือคนละ 2,000 บาท จะยังไม่เข้าครม.ทุกอย่างเป็นแพ็กเกจ จะมีแค่มาตรการช่วยเหลือคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าประจำบ้านหลังละ 3,000 บาทที่จะนำเข้าครม.ในวันที่ 10 มี.ค.ก่อน ซึ่งได้ทั่วทุกคน จะมากจะน้อยก็ขอให้รับไปก่อน ถ้าให้มากเกินไปรัฐบาลก็เป็นปัญหาอีก รายได้รัฐลดลง การเก็บภาษีได้น้อยลงก็ยอมรับ แต่ก็ต้องหาทางอื่นในวันหน้าว่าจะทำอย่างไร เรื่องเงิน 2,000 บาทไว้ว่ากันอีกทีเพราะเดี๋ยวจะว่าทำเรื่องการเมืองกันอีก คงไม่ใช่หรอก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ ต้องให้กระทรวงการคลังไปทำบัญชีทุกอย่างให้พร้อมก่อน วันนี้เอาอย่างนี้ไปก่อน “นายกฯ พูดแต่หลักการรับได้กันไหม ใช้ปัญญาหรือเปล่า โดยหลังจากนี้ก็ต้องไปดูว่าข้าราชการทำได้แค่ไหนอย่างไร เพราะต้องใช้กฎหมายทุกตัว ไม่ใช่นายกฯสั่งส่งเดช มันก็ทำไม่ได้ ทุกเรื่องก่อนที่จะเข้าครม. ผม สำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ฯ เลขาธิการครม.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายจะคัดกรองเอกสารก่อนเข้าครม.ทุกครั้ง อันไหนที่ไม่ได้ ให้ไปทำมาใหม่ เพราะถ้ารีบร้อนเกินไปก็จะเกิดปัญหา แต่มาตรการหลักๆ ก็ต้องออกไปก่อน ทำอย่างนี้มา 5-6 ปีแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว