วันที่ 8 มีนาคม 2563 เวลา 10.45 น.ที่วัดทุ่งนาไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาขี้ฟอย อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานีพระครูอุทัยนวเขต เจ้าอาวสาองค์ปัจจุบันพร้อมกับ ศิษยานุศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา ได้ทำการนำร่างสังขารของพระครูอุทิตนวการหรือหลวงพ่อสำเริง สุนิมมโล อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งนาไทยตามที่ผู้ที่เลื่อมใสรู้จัก โดยร่างของหลวงพ่อสำเริง เดิมทีนั้นอยู่ในโลงธรรมดาที่ปิดทึบมานาน 14 ปี และตั้งอยู่ที่ศาลาวัดทุ่งนาไทย โดยหลวงพ่อสำเริง นั้นได้มรณภาพตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2549 หรือเมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการวัดและเจ้าอาวสารวมถึงผู้ที่เลื่อมใสศรัทธามีความเห็นตรงกันว่า ร่างของหลวงพ่อสำเริงนั้นเก็บอยู่บนศาลาวัดนานเป็นเวลา 14 ปี จึงได้ทำการเปลี่ยนโลงที่ปิดตายหรือทึบเป็นโลงแก้วเพื่อให้ศิษยานุศิษย์ นั้นเห็นเป็นบุญตาและเพื่อให้ประชาชนกราบไหว้ โดยในพิธีนั้นทางวัดได้คัดเลือกคนที่จะนำร่างหลวงพ่อสำเริง ออกมาจากโลงเดิมโดยนุ่งขาวห่มขาว จำนวน 15 คน และมีพระที่เป็นเจ้าพิธีมาคอยบอกวิธีและขั้นตอนไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้ามาในพิธีที่จัดบนศาลาวัด พิธีเริ่มโดยการนำร่างออกมาจากโลงเดิมและทำการเปลี่ยนจีวรของหลวงพ่อสำเริง ซึ่งร่างของหลวงพ่อนั้นไม่เน่าเปื่อย เพียงแต่เนื้อหนังของหลวงพ่อนั้นแห้งลง จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมพิธีต่างก็ทำความสะอาดร่างของหลวงพ่อและจากนั้นได้นำทองมาปิดร่างของท่านจนเหลืองไปทั้งร่าง และนำร่างของหลวงพ่อสำเริงนำบุจุใส่โลงแก้วที่มีกระจกใสจนเห็นร่างของหลวงพ่อ หลังจากที่เสร็จพิธีย้ายร่างของหลวงพ่อสำเริงใส่โลงแก้วเสร็จก็ให้ประชาชนที่ที่มารอคอยมากราบไหว้ขอพรและรอดโลงแก้ว 3 รอบถือเป็นสิริมงคล แก้ดวงชะตาและเสริมบารมี โดยผู้ที่มากราบไหว้หลวงพ่อสำเริงนั้นต่างก็อดไม่ได้ที่จะเลขเด็ดและต่างส่องเลขต่างๆไม่ว่าจะเป็นเลขเวลานำร่างของหลวงพ่อใส่โลงแก้วคือ 10.45 น.และเลขอายุของท่านคือ หลวงพ่อสำเริงนั้น เกิดวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2476 ละสังขารอย่างสงบ วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2549 สิริอายุ 72 ปี 4 เดือน และบวชมา 52 พรรษา ส่วนประวัติของหลวงพ่อสำเริง ตั้งแต่บวชเรียนมานั้น มุ่งมั่นเรียนพระธรรม สมถะเรียบง่ายสงเคราะห์ญาติโยมที่คอยเดือดร้อนมาตลอดและหลวงพ่อยังปลุกเสกวัตถุมงคล และแต่ละรุ่นเป็นที่สนใจผู้ที่สะสมพระเครื่องของขลังแต่ในสมัยนั้นไม่ได้ปลุกเสกมาเยอะ เช่น พระผงเชียงแสน ตระกรุด 12 ราศี และรูปหล่อแกะสลักด้วยงา อีกทั้งหลวงพ่อสำเริงยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระที่วาจาศักดิ์สิทธิ์จนชาวบ้านนั้นเลื่องลือกันและปลุกเสกน้ำมนต์ป้องกันภัยอันตรายและผู้ที่โดนเสกของที่ไม่ดีเข้าตัวและเพื่อเสริมสิริมงคล โดยร่างของหลวงพ่อสำเริง นั้นจะเปิดให้ประชาชนมาสักการะบูชาและชมบารมีเพราะถือว่าเป็นพระเกจิอีกองค์หนึ่งแห่งเมืองอุทัยธานีที่ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา