วันที่ 8 มี.ค.63 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวPiyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล เรื่อง "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" ความว่า...“คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน” คณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา พูดและเขียนไว้ก่อนจะยิงตนเองในห้องพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 พร้อมเผยแพร่แถลงการณ์ถึงความไม่ชอบธรรมในกระบวนการยุติธรรม ว่าบุคคลในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 มีพฤติกรรมแทรกแซงการพิจารณาคดี โดยเฉพาะการพิจารณาคดีที่อาจเกี่ยวข้องกับประเด็นความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ (นอกจากนี้ ในห้องพิจารณาคดีมีผู้เห็นเหตุการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เข้าไปยุ่มย่ามกับโทรศัพท์มือถือของคณากรและลบเฟซบุ๊กไลฟ์รวมทั้งโพสต์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับปัญหาข้อเรียกร้องเรื่องการแทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี) หลังจากนั้นก็มีความพยายามอธิบายว่าการกระทำของผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ เกิดจาก ความเครียดส่วนตัวและอาจหวังผลทางการเมือง ซึ่งผมถือว่าการวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างยิ่ง เพราะมิได้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลย ผู้พิพากษาคนหนึ่งที่มีหน้าที่การงานมั่นคง ตัดสินใจออกมากระทำการแบบนี้ เป็นเรื่องน่าเศร้าสลด เพราะเขาอึดอัดไม่สามารถพูดและแสดงออกถึงปัญหาในการทำงานและความอยุติธรรมที่พบเจอได้ เมื่อพยายามเรียกร้องทุกหนทางแล้วจนเห็นว่าไม่มีหนทางอื่นใด จึงเลือกกระทำเช่นนั้น แม้กระแสสังคมจะหันมาให้ความสนใจกับประเด็นการแทรกแซงการพิจารณาคดีของผู้พิพากษาศาลชั้นต้น และตั้งคำถามกับความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ต่อมามีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อ คณากร เพียรชนะ ว่ากระทำผิดวินัย และมีมติให้ย้ายไปช่วยงานชั่วคราวในกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 5 จ.เชียงใหม่ และยังมีการดำเนินคดีอาญาตามความผิด พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ อีกด้วย ในขณะที่การตรวจสอบ ศึกษา และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อประกันความเป็นอิสระของผู้พิพากษา มิให้ถูกแทรกแซงการพิจารณาคดี กลับไม่ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจริงจังและก็เงียบหายไปอีกเช่นกัน คณากร เพียรชนะ ไม่ใช่อาชญากร แต่คือผู้พิพากษาที่มีจิตใจตั้งมั่นในความยุติธรรม การตัดสินใจจบชีวิตตนเองเป็นครั้งที่สองของ คณากร เพียรชนะ คือภาพสะท้อนของความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมไทยที่ละเลยผู้ที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้อื่น ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและผู้เป็นที่รักของผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ ขอให้ผ่านช่วงเวลาโศกเศร้าอันยากลำบากเกินจะทำใจนี้ไปได้ ผมเชื่อว่า ณ เวลานี้ การยกย่องให้เกียรติ แสดงความคารวะ และแสดงความอาลัย แก่ท่านผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ ที่ดีที่สุด ของพวกเราในฐานะพี่น้องประชาชนคนไทย คือการหันมาให้ความสนใจหารือแลกเปลี่ยนและหาหนทางร่วมกันรณรงค์แก้ไขปรับปรุงระบบการจ่ายสำนวนของผู้บริหารศาลให้แก่องค์คณะ และการตรวจร่างคำพิพากษา เพื่อสร้างหลักประกันความเป็นอิสระแก่ผู้พิพากษาตุลาการ เพื่อ “คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา” เพื่อ “คืนความยุติธรรมให้ประชาชน”