เมื่อวันที่ 6 มี.ค. นายปิยะบุตร จิวระโมในย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารหายไป 20% ทั้งที่เป็นช่วงไฮซีซั่นที่ตามปกติจะมีนักท่องเที่ยวมาก แต่ปีนี้ไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวไม่คึกคักเหมือนเดิม นักท่องเที่ยวที่เคยเข้ามาเที่ยวส่วนใหญ่จะมาจากแถบสแกนดิเนเวีย และยุโรป อาทิ นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก สเปน เบลเยี่ยม แคนาดา นิวซีแลนด์ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะมีคนจีนและมาเลเซียเข้ามาเที่ยวหลายพันคน แต่ช่วงนี้หดหายไปเยอะ จะเหลือแต่ฝรั่งจากแถบสแกนดิเนเวีย และคนกลุ่มนี้จะไม่ใส่หน้ากากอนามัยปิดปากเหมือนคนไทย แม้ทางผู้ประกอบการจะแจกให้ก็ไม่เอา เพราะจะมองว่าคนป่วยเท่านั้นที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัยปิดปากป้องกันเชื้อไปติดคนอื่น นายปิยะบุตร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ถนนข้าวสารกำลังปรับปรุงพื้นถนนและฟุตปาทด้วยการปูกระเบื้องทั้งหมด เริ่มทำมาตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. และใกล้จะเสร็จแล้ว เพื่อให้ทันช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ซึ่งทุกปีจะจัดงานตั้งแต่ 12-15 เม.ย. ในปีนี้ตามโปรแกรมเดิมจะมีการจัดงานแน่นอน แต่ก็อยากให้รอดูสถานการณ์ไปถึงสิ้นเดือน มี.ค. ว่าจะมีการแพร่ระบาด มีคนติดเชื้อมากขึ้นหรือไม่ ประกอบกับช่วงนี้จะมีกลุ่ม "ผีน้อย" จากเกาหลีทยอยกลับมาเป็นพันคนจึงต้องดูด้วยว่าจะคุมอยู่ไหม ถ้าคุมได้ก็จัดได้ แต่ก็หวั่นว่าถ้าคนเข้ามาเล่นน้ำมาก อาจจะดูแลไม่ไหว โดยในวันที่ 15 มี.ค.63 คณะกรรมการจัดงานจะมีการประชุมกับทางสำนักงานเขตในเรื่องนี้ ถ้ามีความเสี่ยงก็คงไม่จัด "ผมยังเชื่อว่าถ้าจัดงานสงกรานต์ข้าวสาร คนจะเยอะเหมือนทุกปี เพราะคนไม่กลัว โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาเที่ยวส่วนใหญ่อายุ 15-16 ปี พวกนี้สนุกอย่างเดียว และมากันเยอะ กรรมการจัดงานจะดูแลทั่วถึงแค่ไหน อาจจะสแกนอาวุธได้ แต่สแกนไวรัสโควิด-19 ทำไม่ไหวแน่นอน ผมก็เป็นห่วงเหมือนกัน โอกาสเสี่ยงมันเยอะ ถนนข้าวสารมันเชื่อมต่อไปถึงถนนรอบนอก เข้าออกได้หลายทาง สำหรับผมคงไม่เสี่ยง เพราะไม่คุ้ม แต่มีคณะกรรมการก็คงต้องพูดคุยกันก่อนว่าจะเอายังไง ตอนนี้บริษัทออกาไนซ์ก็ทวงค่ามัดจำจัดงาน แต่ยังไม่ได้ให้ เพราะยังไม่แน่นอน