พาณิชย์คุมเข้มบุคคลทั่วไป-ผู้ค้าออนไลน์ ออฟไลน์ ต้องแจ้งปริมาณถือครองหน้ากากอนามัย สกัดแอบขายทั้งช่องทางปกติ-ออนไลน์ เตรียมเสนอ กกร.เดือนมี.ค.63 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการหารือเพื่อแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข,สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,สมาคมร้านขายยา,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โรงพยาบาลเอกชนเพื่อร่วมกันติดตามปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยนั้น กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอมาตรการเพิ่มเติมเข้าที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร.เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการกำหนดให้ผู้ใดผู้หนึ่งที่ถือครองหน้ากากอนามัยจะต้องแจ้งกรมการค้าภายในให้ทราบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกักตุนสินค้า ส่วนปริมาณที่จะอนุญาตให้ผู้ใดผู้หนึ่งถือครองนั้น กกร.จะเป็นผู้กำหนดอีกครั้ง ซึ่งจะแตกต่างจากประกาศเดิมที่จะเน้นให้ขายและผู้ผลิตและผู้ส่งออกแจ้งสต๊อกสินค้าตามมาตร 28 และมาตรา 29 โดยมาตรการใหม่จะเน้นไปที่บุคลคลทั่วไป รวมถึงผู้ค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีผู้ค้าจำนวนมากประกาศขายผ่านช่องทางต่างๆมีหน้ากากอนามัยไว้รอขายจำนวนมาก และกระทำผิดขายเกินราคากันเป็นจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเสนอเข้าที่ประชุม กกร.ในเดือนมี.ค.63 อย่างไรก็ตามขณะนี้หน้ากากอนามัยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 38 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งต่อไปนี้ภาครัฐได้ตั้งศูนย์กระจายบริหารและจัดการหน้ากากอนามัย ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะทำหน้าที่กำกับดูแลกระจายหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ทั้งหมด 38 ล้านชิ้นต่อเดือน และจะเน้นไปที่สถานพยาบาลและผู้ที่จำเป็นต้องใช้ดังนั้น วิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึงหน้ากากอนามัยมากขึ้นถึง 5 เท่า นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายจากผู้กระทำความผิดไปแล้ว 59 ราย แบ่งเป็น ขายแพง 38 ราย ไม่ติดป้ายราคา 21 ราย ผู้ขายออนไลน์จำนวน 5 ราย และยังจะเอาผิดกับแพลตฟอร์มที่ปล่อยให้มีการขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ถือว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิด เพราะถือว่าแพลตฟอร์มนั้นๆได้รับประโยชน์จากการขายสินค้าแพงเช่นกัน