เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศ ชาย หญิง และเพศที่ 3 ว่า ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญา การเมืองที่จะมีการลงนามในการประชุม คณะกรรมการว่าด้วยสถานภาพสตรีที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 9-20 มี.ค. โดยเป็นเรื่องต่อเนื่องจากที่ประเทศไทย ได้ร่วมลงนามรับรองปฏิญญาปักกิ่ง และแผนปกฺบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี ตั้งแต่ปี 2539 โดยเน้นในเรื่องของการส่งเสริมความเสมอภาค และศักยภาพสตรี สำหรับปฏิญญาที่จะมีการลงนามในครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำว่า เราจะต้องพัฒนาอย่างยั่งยืน และเร่งทำความเท่าเทียระหว่างเพศ และการเสริมพลังสตรีให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่มีประเทศไทนที่บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่คาดว่าภายในปี 2030 จะเห็นผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการดำเนินการเพื่อสร้างความเท่าเทียมนั้นประกอบด้วย 5 เรื่องหลักได้แก่ 1.ขจัดกฎหมายที่มีลักษณะแห่งการเลือกปฏิบัติ 2.มีกลไกในทุกระดับเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ 3.สอดแทรกเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศ และส่งเสริมพลังสตรีและเด็กหญิงในการพัฒนาสังคมการเมือง และสิ่งแวดล้อม 4.สร้างบรรทัดฐานของสังคมให้ตระหนักถึงศักยภาพของผุ้หญิงและเด็กหญิงและขจัดการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ  5.ใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมพลังผู้หญิงและเด็ก