วันที่ 2 มี.ค.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงประเด็นที่สื่อนำเสนอข่าว สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนักที่เกาหลีใต้ ส่งผลทำให้คนไทย หรือ คนที่เป็นแรงงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยนั้นว่า สำหรับคนไทย หรือ คนที่เป็นแรงงานผิดกฏหมายที่เกาหลีใต้ ที่ติดต่อมอบตัวกับ ตม.เกาหลีใต้ กลุ่มนี้จะถูกกลับมาในฐานะผู้ส่งกลับ โดยการนเรเทศกลับ ซึ่งสถานะส่วนใหญ่จะเป็น Over stay มีจำนวนเท่าใดยังไม่ทราบแน่ชัด โดยสายการบินที่ส่งกลับจะรับตัวแล้ว พากลับเข้ามายัง ท่าอาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนการตรวจคนเข้าเมือง ของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ได้มีการแยกโซน หลุมจอด เฉพาะอยู่แล้ว ไม่ให้มีปะปนกับผู้โดยสารอื่นๆ โดยกลุ่มที่จะถูกส่งกลับมาจากเกาหลีใต้นี้ ก็ได้มีการแยกโซนไว้เฉพาะไว้เช่นกัน ซึ่งจะมีการประสานสายการบินที่รับตัวกลับเข้ามา ให้รวมพาสปอร์ตไว้ก่อน เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย จะต้องผ่านการตรวจคัดกรอง โดยเครื่อง Thermo Scan ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จากนั้น จึงจัดทำประวัติโดยละเอียด โดยหากพบอาการ จะถูกส่งต่อไปยังสถาบันบำราศนราดูรทันที ถ้าหากไม่มีก็จะให้กลับไปพัก ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ พร้อมให้รายละเอียดหนังสือคู่มือ การเก็บตัวภายในที่พักอาศัย 14 วัน การเฝ้าดูอาการตัวเอง ซึ่งจะมีรายละเอียดในการสังเกตอาการตนเองและการแจ้งข้อมูลต่อแพทย์โดยตรง ตลอดจนการติดตามผล ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคเป็นระยะ และวันนี้ (2 มี.ค. 63) เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 เรียกประชุมหัวหน้าด่านทุกด่านในสังกัดทั่วประเทศ เพื่อกำชับ ซักซ้อม ทำความเข้าใจการปฏิบัติ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีความพร้อมในการป้องกันและหยุดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ตั้งแต่ขั้นตอนในการคัดกรอง คัดแยก และการตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนการเพิ่มความเข้มงวดในการระมัดระวังและการป้องกันตนเองของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความสะอาดพื้นที่ทำงาน การสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือยางขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาในลักษณะแบบนี้ มีการดำเนินการด้วยความเป็นมาตรฐาน ร่วมกับ ทีมแพทย์, เจ้าหน้าที่กรมควบคุม กระทรวงสาธารณสุข, การท่าอากาศยาน AOT และหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชน