“CCP”เผยผลประกอบการปี 62 รายได้รวม 2,645 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64.15 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.01 บาท มองอุตสาหกรรมคอนกรีตปี 63 แนวโน้มดี ชูกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ ปรับโมเดลธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ รับเทรนด์ก่อสร้างปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง เพิ่มความสามารถการทำกำไร พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่คอนกรีตสำเร็จรูป รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน-อีอีซีและงาน Landscape รักษา Backlog 1,700 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 62 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 2,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 ล้านบาท หรือ 6.6%จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,481 ล้านบาท ปี 62 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 64.15 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรจากที่ปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 70.62 ล้านบาท ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆกลุ่ม โดยกลุ่มรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น7.8% เนื่องมาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของโครงการภาครัฐและเอกชนสูงขึ้น และการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับกลุ่มรายได้จากการให้เช่าและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 113.9% สาเหตุจากการให้เช่าและบริการรถขนส่งสินค้าประเภทคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-Mixed Concrete) อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย บมจ.สมาร์ทคอนกรีต(SMART) ปรับตัวดีขึ้นมาก นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอจ่ายปันผลเป็นเงินสดแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 44.6% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย(งบเฉพาะกิจการ)หรือคิดเป็นเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.01 บาท รวมจำนวนเงิน 27.68 ล้านบาท โดยเตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 พิจารณาอนุมัติต่อไป สำหรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปีนี้มีแนวโน้มดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐาน โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เริ่มทยอยดำเนินงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องอาทิ งานถนน งานอาคารสำนักงาน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัว โดยแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการปรับโมเดลธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ(Ready-Mixed Concrete) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง ต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะมุ่งเน้นการให้บริการที่ครอบคลุมและคล่องตัว เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร ขณะที่ด้านสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ งานถนน งานสะพาน ซึ่งมีความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคตะวันออก ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 1,700 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปีครึ่งแบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60% โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog)ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาทในทุกขณะ ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งงบสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไว้ที่ประมาณ 60 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายการเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2,800 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 10% สัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20%