สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีบัญชี 2562 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปีมหาดไทย ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมีสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศกว่า 3,000 คนเข้าร่วมประชุม โดยมีวาระที่สำคัญคือ การเลือกตั้งประธานกรรมการดำเนินการแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากประธานคนเดิม ลาออก และเลือกกรรมการดำเนินการที่ครบวาระอีก 7 คน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเกิดวิกฤตกับสหกรณ์แห่งนี้ ในปลายปี 2561 ที่คณะกรรมการชุดที่ 14 ที่มีอดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานกรรมการได้มีมติให้โอนหนี้ของผู้กู้ไปให้ผู้ค้ำรับผิดชอบแทน จนทำให้สมาชิกสหกรณ์ที่เป็นผู้ค้ำนับหมื่นคนเดือดร้อนจนนำไปสู่การประท้วงหลายต่อหลายครั้ง จนที่สุดมีการเปลี่ยนแปลงประธานและกรรมการดำเนินการยกชุด เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 โดยได้ นายอำพล ยุติโกมินทร์ ปลัดเทศบาลเมืองสามพราน จ.นครปฐม เป็นประธานกรรมการดำเนินการแทน ต่อมาด้วยเหตุผลส่วนตัวเรื่องสุขภาพและเรื่องการทำงานประจำ ทำให้นายอำพล ลาออกก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา จึงนำมาสู่การเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ โดยผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์และยังมีตำแหน่งในฐานะเป็นนายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาพันธ์ผู้ค้ำประกันแห่งประเทศไทย ที่เปลี่ยนสถานะมาจากเครือข่ายผู้ค้ำประกันเงินกู้สหกรณ์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นภาคีสำคัญในการขับเคลื่อนสหกรณ์ ชนะ นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ อดีตเลขานุการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อดีตปลัดอบจ.กาญจนบุรี และอดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด้วยคะแนน 780 คะแนนต่อ 559 คะแนน พร้อมนำลูกทีมผู้สมัครหมายเลข 2-7 และ 9 ชนะยกทีม ทั้งนี้ จากประวัตินายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง มีประสบการณ์ทางสหกรณ์มาไม่น้อยจากการเป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ร้านค้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำกัด (ช่วงเป็นนักศึกษา) เป็นกรรมการและเลขานุการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเชียงใหม่ จำกัด (รุ่นก่อตั้ง)และเป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเชียงใหม่ จำกัด (รุ่นก่อตั้ง) นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนเองเข้ามาจากการเชิญของสมาพันธ์ผู้ค้ำประกันแห่งประเทศไทย ที่ต้องการให้มาช่วยขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ที่สะสมมานานนับสิบปี โดยเฉพาะในเรื่องการติดตามหนี้สินที่ค้างชำระจากข้าราชการส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศที่กู้ยืมเงินแล้วไม่ยอมส่งใช้คืน หรือคืนไม่ตรงตามรอบบิล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นสังกัดที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสหกรณ์ที่ไม่ยอมหักเงินรายได้ของผู้กู้ส่งให้สหกรณ์ ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะใช้หลักรัฐศาสตร์นำโดยพยายามจะใช้กฎหมายให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น และจะยึดหลักการสหกรณ์ที่ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากกว่าที่จะหวังผลกำไรเป็นสำคัญ โดยมีเรื่องเร่งด่วน จำนวน 6 เรื่องที่จำเป็นต้องสะสางให้แล้วเสร็จโดยเร็วกล่าวคือ 1.ปัญหาการโอนหนี้ของผู้กู้ไปให้ผู้ค้ำยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อาจมีการนำมาบังคับใช้ได้ทุกเมื่อ เนื่องจากที่ผ่านมาการติดตามลูกหนี้ที่ค้างชำระยังขาดการติดตามอย่างจริงจัง 2.ปัญหาภายในของสำนักงานสหกรณ์ฯที่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่เพื่อให้เป็นองค์กรของสมาชิกสหกรณ์อย่างแท้จริง และให้สหกรณ์มีความมั่นคง ยั่งยืน โดยปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน 3.การย้ายสำนักงานสหกรณ์ เนื่องจากกรมส่งเสริมฯต้องย้ายออกไปตามกระทรวงมหาดไทยในสถานที่แห่งใหม่ในไม่ช้านี้ ทำให้สหกรณ์ฯต้องย้ายออกจากพื้นที่ด้วย โดยให้สมาชิกสหกรณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ 4.การปรับเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งประธานกรรมการดำเนินการ และกรรมการดำเนินการ เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพข้อเท็จจริงที่สมาชิกสหกรณ์มีภูมิลำเนากระจัดกระจายอยู่ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ 5.การสรรหาผู้จัดการมืออาชีพ ที่มิใช่คนของใคร แต่เป็นคนของสมาชิกสหกรณ์ทุกคน ที่จำเป็นต้องได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ มีทัศนคติที่ดีต่อสมาชิกและคนท้องถิ่น 6.จัดระบบการกู้ยืมเงินให้สอดคล้องกับกฎหมายกู้ยืมฉบับใหม่ เพื่อให้สมาชิกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจการของสหกรณ์ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ++++++++++++++++