วันที่ 29 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพท้องทะเลในพื้นที่ตำบลหน้าสตน ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังอยู่ในภาวะวิกฤติจากน้ำมันสีดำจำนวนมากถูกคลื่นซัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นของทุกวัน และจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเมื่อลมตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มรุนแรง และมีคลื่นสูง ก้อนน้ำมันขนาดต่างๆเข้าเกยหาดตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์หาดทรายอย่างรุนแรง โดยที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าแก้ไขปัญหา หรือชี้แจงถึงต้นตอที่มา ส่วนผู้นำประมงพื้นบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำมันที่มาจากกิจกรรมแท่นขุดเจาะ ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ไม่มีความรู้และความชำนาญรวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือในการจับเก็บ และแม้ว่าทะเลจะเต็มไปด้วยน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาลูกหลานของชาวประมงยังคงเสี่ยงที่จะลุยคลื่นสีดำไปเล่นน้ำและเก็บสัตว์ทะเลที่ถูกซัดเข้าหาฝั่งอย่างน่ากังวลต่อผลกระทบทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับบริเวณชายหาดเป็นที่น่าสังเกตว่าเต็มไปด้วยซากฟองน้ำซึ่งเป็นสัตว์หลายเซลที่อาศัยเกาะอยู่บนพื้นทะเลถูกคลื่นซัดขึ้นมากองบริเวณชายหาดจำนวนมากตลอดแนวหลายกิโลเมตร รวมทั้งซากปะการัง กัลปังหา และหองนานาชนิด ที่สำคัญซากฟองน้ำได้ดูดซับน้ำมันจนเป็นสีคล้ำดำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าลักษณะของน้ำมันที่จมตัวลงด้วยการใช้สารเคมีจนกลายเป็นก้อนได้ไปเกาะจับตัวกับฟองน้ำและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยเกาะติดบนพื้นท้องทะเล นางสะรีเด๊าะ มิแหม ชาวประมงชายฝั่ง หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่าน้ำมันแบบนี้ถูกคลื่นซัดเข้ามาเป็นประจำโดยเฉพาะช่วงคลื่นลมรุนแรง ชาวบ้านมารู้ตัวเมื่อน้ำมันเข้ามาเต็มหาดแล้ว เดือดร้อนกันไปหมดมาเป็นจำนวนมากเมื่อถูกแดดจะไหลเยิ้ม ส่งผลผลต่อวิถีชีวิตชาวประมงอย่างมาก เพราะทุกวันชาวประมงต้องอยู่กับทะเลขอร้องให้ทางราชการแก้ไขปัญหา อย่าให้มีการปล่อยให้น้ำมันแบบนี้ถูกทิ้งถูกปล่อยลงทะเลแล้วมาสร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมและชาวประมง.