วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษา เดินทางไปยังจังหวัดตาก เพื่อติดตามการดำเนินการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับเชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบแก่ตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 40 ชุด หน่วย ฉก.ร.4 จำนวน 10 ชุด และหน่วย ฉก.ทพ.35 จำนวน 10 ชุด ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันอธิปไตย และรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ณ ฐานปฏิบัติการนกแล ร้อย ตชด.345 ต ตำบลแม่ระมาด อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก พร้อมกับเชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ต่อมา เดินทางไปยังโครงการอนุรักษ์สภาพป่าแม่ตื่นอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่นตำบลแม่ตื่น และตำบลสามหมื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก พร้อมกับเชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในโครงการ จำนวน 250 ชุด จากนั้นรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ ซึ่งได้ดำเนินงานตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของเขื่อนภูมิพล พร้อมทั้งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร ให้คนอยู่กับป่าอย่างยั่งยืน โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น 4 สถานี ประกอบด้วย 1) สถานี สหัส บุญญาวิวัฒน์ 1 (บ้านห้วยน้ำเย็น) 2) สถานี สหัส บุญญาวิวัฒน์ 2 (บ้านทีนามู) 3) สถานี โกวิท ปัญญาตรง 1 (บ้านแสมไทย) 4) สถานี โกวิท ปัญญาตรง 2 (บ้านละเผ่ใหม่) มีประชากรในพื้นที่โครงการอนุรักษ์สภาพป่าแม่ตื่นฯ จำนวน 3,113 คน 703 ครัวเรือน โดยมีผลการดำเนินงานคือ ด้านการป้องกันรักษาป่า (โดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น) มีการจัดตั้งจุดสกัดทางบก และจุดสกัดทางน้ำ ทำให้สามารถทวงคืนผืนป่าได้ถึง 88 แปลง เนื้อที่ 562.80 ไร่ ด้านการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มีการปลูกป่าในลักษณะทั่วไป ปลูกป่าไม้ใช้สอย ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง โดยคัดเลือกชนิดไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น และไม้ที่ใช้ใบ ดอก ผลเป็นอาหารของคนหรือสัตว์ได้ ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมให้ราษฎรรวมกลุ่มในการปลูกบุกไข่ เพื่อลดพื้นที่การปลูกพืชเชิงเดียว เป็นการปลูกพืชหลายชั้นเรือนยอด รวม 259 ไร่ โดยในปี 2562 สามารถเก็บผลผลิตหัวบุกไข่สดได้ประมาณ 13.25 ตัน ราษฎรมีรายได้กว่า 325,000 บาท นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ปลูกกาแฟอินทรีย์ภายใต้ผืนป่าธรรมชาติที่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความสูงมากกว่า 800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ปลูกกาแฟอินทรีย์พื้นที่ปลูกรวม 216 ไร่ ผลผลิตที่ได้ในปี 2562 ประมาณ 1,200 กิโลกรัม ราษฎรมีรายได้กว่า 156,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกไผ่และแปรรูปหน่อไม้ ส่งเสริมการเลี้ยงไก่พื้นเมือง และไก่ไข่พระราชทานที่ได้รับพระราชทานพันธุ์ไก่จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ราษฎรมีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภค และเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับราษฎรอีกด้วย สำหรับแนวทางการพัฒนาในอนาคตจะได้น้อมนำแนวพระราชดำริ การปลูกป่าสร้างรายได้ การปลูกป่าในใจคน มาปฏิบัติใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป โอกาสนี้ องคมนตรีและคณะ ได้เยี่ยมราษฎร และเยี่ยมชมผลการดำเนินงานโครงการฯ