ชุลมุน กันแต่เช้าตรู่หลังพลเมืองดีวิ่งไล่ตามจับคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ได้อย่างทันควัน ขณะเข้ายื้อแย่งประเป๋าถือแบบหูหิ้วจากนักเรียน ม.5 สุดท้ายไปไม่รอดจนมุมต่อวงประชาทัณฑ์ชาวบ้านที่เข้ามาช่วยกันรุมล้อมจับตัวและพันธนาการไว้ด้วยเชือกจนอ่วม ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายยังที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ต่อไป วันที่ 27 ก.พ.63 เวลา 08.20 น. ร.ต.อ.สายชล แสงทอง รอง สวป. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรงานป้องกันและปราบ ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นกระเป๋าถือจากนักเรียนหญิง ขณะผู้เสียหายกำลังนั่งรถโดยสารแบบสองแถวประจำทาง ผ่านเส้นทางฝั่งตรงข้ามกับปากทางเข้าวัดดอนทอง บนถนนศุขประยูร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งขาเข้าตัวเมือง จึงรีบรุดเดินทางไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุพร้อมกำลังสายตรวจรถจักรยานยนต์ ที่เกิดเหตุพบมีชาวบ้าน พร้อมด้วย อส.ตร.ดอนทอง ได้ทำการควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้แล้ว ที่บริเวณริมเส้นทางสายดังกล่าวฝั่งขาเข้า เลยจากฝั่งตรงข้ามซุ้มประตูวัดดอนทางไปประมาณ 130 เมตร ในสภาพถูกรุมประชาทัณฑ์จนสะบักสะบอมมีเลือดไหลซึมออกมาจากรอยฟกช้ำที่โหนกแก้มซ้าย สวมเสื้อลายสก็อตสีเทาน้ำตาล สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน นอนนิ่งเฉยอยู่กับพื้นเมื่อถูกซักถามไม่ยินยอมตอบคำถามใดๆ ทราบชื่อต่อมา คือ นายชาติชาย พันชมพู อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 ม.14 ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู หลังจากพลเมืองดีทำการตรวจสอบดูภายในกระเป๋าสะพายสีขี้ม้าของผู้ก่อเหตุ พบสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยาใต้ 1 เล่ม สาขาบิ๊กซี 2 ฉะเชิงเทรา 1 เล่ม ซองยารักษาอาการขาดวิตามีนจาก รพ.พุทธโสธร 1 ซอง ลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 16 ก.พ.63 ไม่ถูกรางวัล 2 ใบ บัตรประจำตัวประชาชน และเงินสดฉบับละ 1 พันบาท จำนวน 3-4 ใบ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถยนต์สายตรวจ นำส่งไปยัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ น.ส.วรัญญา เศรษฐ์พัฒนะ อายุ 17 ปี 10 เดือน ชาว ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 (ดอนทอง) กำลังนั่งร้องไห้ พร้อมเล่าว่า ได้นั่งรถยนต์โดยสารแบบสองแถวประจำทางมาจาก อ.บางคล้า เพื่อที่จะมาลงรถยังที่บริเวณด้านฝั่งตรงข้ามกับซุ้มประตูวัดดอนทอง เพื่อที่จะไปยังที่โรงเรียน ได้พบผู้ก่อเหตุเดินขึ้นรถมาจากบริเวณป้ายหยุดรถหน้าเหรียญทองคอนโด ซึ่งเลยจากสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 มาเพียงเล็กน้อย จนรถสองแถวประจำทางขับมาตามเส้นทางอีกประมาณ 250 เมตร ตนจึงได้กดกริ่งบอกเตือนคนขับรถ ว่าจะลงรถที่บริเวณดังกล่าว แต่ทันใดนั้นคนร้ายได้ตรงเข้ามายื้อแย่งกระเป๋าถือเนื้อพลาสติกสังเคราะห์จนหูขาดจากมือ และพยายามถามหาสิ่งของมีค่า และใช้มือค้นหามายังที่กระเป๋ากางเกงตน จากนั้นได้กระโดดลงจากรถวิ่งหลบหนีไปพร้อมด้วยประเป๋าถือ ซึ่งมีสิ่งของเครื่องใช้อื่น และกระเป๋าสตางค์ที่บรรจุไว้แต่เหรียญเศษสตางค์ไป ส่วนเงินติดตัวส่วนใหญ่ได้ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง คนร้ายจึงไม่ได้ไป จากนั้นได้มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยกันวิ่งไล่ติดตามไปจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ไว้ได้ในที่สุด น.ส.วรัญญา กล่าว