"ณัฐพล" เผย เล็งเรียก สส. เสียงคล้ายคลิปล่อซื้อตัว สส.อดีตอนาคตใหม่ สอบถาม ยันเสียง รบ.เข้มแข็งพอ ด้าน 'ธรรมนัส' เชื่อเป็นไปไม่ได้ ทุ่มเงินซื้อตัว ไม่คุ้ม 3 ปีที่เหลือ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่นำคลิปเสียงคล้าย ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เสนอเงินให้มาอยู่กับ พปชร.ว่า เครือข่าย สส.กทม.ของพรรค ไม่ได้ไปดึงใครจากที่ไหน อะไรอย่างไร ตนยืนยันได้เพราะ มีเรื่องอื่นที่ต้องห่วงใยอีกมากมาย เพราะฉะนั้น ในส่วนที่จะไปพิสูจน์ว่าเป็นใคร เป็นหน้าที่ของคนที่ออกมาเปิดเผย ส่วนจะมีการทำเรื่องไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นั้นตนเชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะไม่สามารถบอกได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร แต่ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐกำลังตรวจสอบในเรื่องนี้ว่าเป็นคนของพรรคหรือไม่ เมื่อถามว่า ได้เรียก ส.ส. คนที่มีเสียงคล้ายเสียงในคลิปมาสอบถาม หรือไม่ นายณัฐพลกล่าวว่า กำลังจะเรียกมาสอบถาม ว่ากระบวนการเป็นอย่างไรและใช่หรือไม่ เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการเสนอเงิน 23 ล้าน นายณัฐพล กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเป็นตัวเลขที่ไม่มีเหตุผลรองรับ ดังนั้นรอให้หลักฐานออกมา รอให้มีการพิสูจน์กันก่อนและมีการพิสูจน์ก่อนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นการกระหายตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย นายณัฐพล กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาล จะดูเรื่องเสียงในการโหวตงบประมาณ ไม่ได้กังวลตรงนั้น แม้จะเสียงปริ่มน้ำ แต่ยังมีความมั่นคงของเสียง ส่วนการเตรียมตัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เห็นความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เราไม่มีความกังวลเรื่องความไม่มั่นคงของเสียง สำหรับการบริหารจัดการภายใน ครม. หากถามนายกรัฐมนตรี และ ครม.ทุกคนเรามีความมั่นคงในการทำงาน ไม่มีคนไหนกังวลว่าจะถูกปรับเปลี่ยน เพราะฉะนั้นอาจเป็นความคิดของคนทั่วไปว่า เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการปรับครม. ถือเป็นเรื่องการเมืองธรรมดา เมื่อถามว่า การให้ตำแหน่งรัฐมนตรีนับจากสส.ในมือหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า ในอดีตอาจจะใช่ แต่การทำงานของนายกฯไม่ได้คำนึงถึงตรงนั้น สัดส่วนของ สส.พรรค ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจของนายกฯซึ่งสามารถสอบถามจากนายกฯได้ เท่าที่ดูจากการจัดคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวกับสัดส่วนโควต้าที่ต้องเท่ากัน แต่จะดูที่ความเหมาะสมและความมีเสถียรภาพของรัฐบาล ส่วนกลุ่มไหนที่จะคิดว่ามี ส.ส.อยู่ในมือและสามารถต่อรองได้คิดว่านายกไม่ต่อรองได้แน่นอน ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอตอบในส่วนตนเองก่อน ซึ่งมองว่าพรรคพลังประชารัฐในเวลานี้ มีจำนวนสมาชิกผู้แทนราษฎรมากพอสมควร โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคงคิดว่าในเวลานี้ยังไม่มีความจำเป็น ในการหาเสียงเพิ่ม ส่วนจะไปฝากกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ว่าไปฝากไว้กับใครบ้าง เมื่อถามว่าได้ฟังคลิปเสียงที่พรรคอนาคตใหม่ออกมาเปิดแล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยังไม่ได้ฟัง เพราะเรื่องของตัวเองก็หนักพออยู่แล้ว ส่วนที่มีการนำเสียงไปเทียบแล้วพุ่งเป้ามาที่พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจ พร้อมย้อนถามว่ามีเสียงคล้ายตนหรือไม่ เมื่อสื่อถามย้ำว่าเสียงคล้ายกับ ส.ส.กรุงเทพฯพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามย้ำถึงมีการเสนอเงินถึง 23 ล้านบาทในการดึงส.ส.อนาคตใหม่มาร่วมฝั่งรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ถ้าดูด้วยเหตุด้วยผลไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเงิน 23ล้านบาท กับอีก 3 ปีที่จะถึง และในสถานการณ์เช่นนี้ ฝ่ายรัฐบาลก็มีเสียงที่เข้มแข็งอยู่แล้ว เมื่อถามว่าการที่พรรคอื่นจะนำไปเป็นการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในอนาคตนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ตัดสินใจว่าจะไปร่วมกับพรรคอะไร เมื่อถามย้ำว่ามีการมองว่าเพื่อนำไปเสริมความเข้มแข็งให้กับแต่ละพรรคเพื่อเพิ่มการต่อรอง ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อยู่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ