พึ่งไสยศาสตร์! ทีมนักประดาน้ำจุดธูปปูพรมงมเจ้าพระยา หากถุงปุ๋ยใส่กระดูก"พี่ผู้พิพากษา"ต่อเนื่อง ด้าน"ลูก-เมีย"หิ้วข้าวมันไก่เยี่ยม'บรรยิน' บอกพ่อไม่เครียดนอนหลับดี เชื่อโดนกลั่นแกล้ง ขณะที่ตำรวจเตรียมตัว"บรรยิน"ฝากขังศาลอาญารัชดาฯ ขณะที่"ศาล"แถลงเล็งปรับแผน รปภ.คุ้มกันผู้พิพากษา แย้มอาจมีการพิจารณาจัด"เซฟเฮ้าส์"เก็บตัว จากกรณีการจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ และอดีตส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย พร้อมกับคุมตัวลูกน้องคนสนิท 3 คน มาสอบสวนในคดีพัวพันการอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษาประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ โดย 2 ใน 3 คนสนิทของพ.ต.ท.บรรยินคือ นายมานัส ทับนิล และนายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รวมไปถึงพาไปชี้จุดที่ลงมือก่อเหตุ แล้วนำร่างไปเผาไฟก่อนจะมีการนำโครงกระดูกของผู้ตาย นำใส่ถุงปุ๋ย 3 ใบ ไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อทำลายหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำทีมกู้ภัยนครสวรรค์ ได้ลงค้นหาถุงปุ๋ยดังกล่าวแต่ก็ยังไม่พบ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ทีมนักประดาน้ำได้นำเครื่องเซ่นพร้อมกับจุดธูปไหว้เพื่อขอพระแม่คงคา เทพยาดา ช่วยเปิดทางค้นหาให้เจอหลักฐานถุงปุ๋ยที่เชื่อว่ามีโครงกระดูกพี่ชายผู้พิพากษาดังกล่าวโดยเร็ว โดยหนึ่งในทีมนักประดาน้ำ ให้ข้อมูลว่า มีการแบ่งการปฏิบัติงานกัน 4 ทีมๆ ละ 4 คน ปูพรมค้นหาในรัศมี 500 เมตร ซึ่งก็พบอุปสรรคบ้าง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำมีสีขุ่น ทำให้การงมค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะดำลงไปแล้วมองไม่เห็น ต้องใช้มือคลำพื้นใต้น้ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และที่หนักใจก็คือมีข้อมูลระบุว่าคนร้ายนำถุงปุ๋ยมาโยนยิ้งไว้เมื่อวันที่4 ก.พ.ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 20 วัน อาจมีความเป็นไปได้ว่าถุงปุ๋ยดังกล่าวจะลอยไปไกลในระดับรัศมี 10 กิโลเมตร แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักถุงปุ๋ยที่โยนทิ้ง และกระแสของน้ำด้วย เช่นเดียวกันกับที่แม่น้ำปิง บริเวณหน้าวัดไทรใต้ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายนำทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปโยนทิ้ง ก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำทีมกู้ภัยอีกทีมหนึ่ง ลงงมค้นหาจุดนี้อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายของผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อม นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชาย ได้นำอาหารเช้าเป็นข้าวมันไก่และเสื้อผ้ามาให้ที่ห้องควบคุมตัว โดย นายวรภัทร์ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมพ่อว่า พ่อไม่มีความวิตกกังวลหรือมีอาการเครียด นอนหลับปกติ ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่สงสัยว่าจนป่านนี้แล้วยังไม่สามารถตั้งทนายความขึ้นมาดูแลคดีได้ โดยพ่อยังยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้พ่อนอนหลับดี ไม่ได้เป็นกังวลหรือเครียดอะไร ตนเองยังคงเชื่อในตัวพ่อว่าไม่เกี่ยวข้อง และคาดว่าอาจจะโดนกลั่นแกล้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัวพ.ต.ท.บรรยินไปฝากขังศาลอาญารัชดาภิเษก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสอบสวนที่จ.นครสวรรค์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยหลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น จะนำตัวทั้ง 3 คน มาควบคุมตัวไว้ที่กองปราบปราม เพื่อเตรียมนำไปขออำนาจศาลฝากขังในวันที่ 25 ก.พ.63 ต่อไป ที่ห้องประชุมชั้น12 สำนักงานศาลยุติธรรม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช .พาณิชย์ และส.ส.พรรคพลังประชาชน จากการขยายผลคดีอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจหมื่นล้าน ว่า ขอขอบคุณทางตำรวจที่ทุ่มเทเรื่องนี้มา 20 วัน ในการติดตามดูแลความปลอดภัยน.ส.พนิดา (สงวนนามสกุล) ผู้พิพากษาที่มีความกล้าหาญ มีความรับผิดชอบในการทำหน้าที่ และขอแสดงความเสียใจที่พี่ชายของท่านที่ถูกจับเป็นตัวประกันเสียชีวิต ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้ขอศาลให้เป็นความลับ ไม่เผยแพร่ข่าว เนื่องจากห่วงชีวิตความปลอดภัยของตัวประกัน ซึ่งทางตำรวจได้รายงานความคืบหน้าให้ประธานศาลฎีกาทราบโดยตลอด ตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนได้คุ้มครองความเป็นอิสระ ความเป็นกลางของผู้พิพากษา รวมถึงรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ (ผู้พิพากษา) น.ส.พนิดาทำได้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์ผู้พิพากษาถูกยิงที่จ.ปัตตานี และเหตุยิงที่ศาลจังหวัดพัทยา ศาลจังหวัดจันทบุรี กระทบถึงความปลอดภัย จึงมีการผลักดันให้มีเจ้าพนักงานตำรวจศาล (คอร์ทมาแชล) แต่งตั้งชุดแรกที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว 35 คน จะขยายอัตราในเดือนเมษายน 2563 ได้ 309 อัตรา เพื่อรักษาความปลอดภัยในศาลและคุ้มครองบุคลากรของศาล เมื่อถามถึงการป้องกันเหตุกับผู้พิพากษารายอื่น นายสราวุธ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานศาลฯ เราทำเต็มที่ในการจัดคอร์ทมาแชล ดูแลผู้พิพากษา แต่ขณะนี้มีกำลังยังไม่เพียงพอ ใช้การประสานงานกระจายตามความจำเป็นเร่งด่วน อัตรา 35 นาย อยู่ส่วนกลาง ยังแบ่งประจำ 200 กว่าศาลทั่วประเทศไม่ได้ จึงส่งไปดูแลตามที่มีการร้องขอความจำเป็นเข้ามา และดูแลคดีที่มีความเสี่ยงชิงตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย หรือเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัย “ส่วนผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีฆ่านายชูวงษ์ ที่ศาลอาญาพระโขนง เราได้ดูแลเช่นกัน ทางสำนักงานศาลฯ ได้ส่งคอร์ทมาแชลไปประจำดูแลด้วย ผลัดเปลี่ยนกันครั้งละ 4 นาย” นายสราวุธ กล่าว เมื่อถามถึงในอนาคตมีความจำเป็นต้องมีสถานที่ปลอดภัยหรือเซฟเฮ้าส์ เพื่อเก็บตัวผู้พิพากษาในการทำคำพิพากษาคดีผู้มีอิทธิพลหรือมีความซับซ้อนหรือไม่ และมีความจำเป็นต้องมีกฎหมายพิเศษเอาผิดกับผู้ข่มขู่ผู้พิพากษา เพราะกระทบกับความยุติธรรมหรือไม่นั้น นายสราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราก็มีการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว เช่นกรณีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรามีที่พักและจัดรถกันกระสุนให้ “ส่วนคดีอาญาทั่วไปยังไม่เคยมีเรื่องการพิจารณาที่จะมีเซฟเฮ้าส์ แต่ในอนาคตก็อาจเป็นได้ที่จะให้มี ส่วนกฎหมายพิเศษลักษณะดังกล่าวไม่มี ที่ผ่านมาจะเป็นเรื่องของกฎหมายอาญาที่มีใช้อยู่ ซึ่งหากการกระทำนั้นร้ายแรงต่อชีวิตก็จะเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289” นายสราวุธ กล่าว