คนร้ายยิงเขยสมาชิกสภาเทศบาลตำบลไร่ขิง เดินทางเข้ามอบตัว โดยมีญษติพร้อมทนายความนำหลักทรัพย์มาประกันตัวแต่ตำรวจคัดค้าน แต่เจ้าตัวยังภาคเสทแต่ยิงเพราะมีเหตุผล ทั้งนี้ทางญาติทั้งสองฝั่งได้พูดคุยทำความเข้าใจกันหลังเกิดเหตุได้ 1 อาทิตย์ วันนี้ 24 ก.พ. 63 ที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เดินทางมาเพื่อตรวจสำนวนคดีคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงใส่นายวัฒนกุล หรือ กวาง อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณเวลา 21.30 น.ของคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเย็นวันนี้ นายสมเกียรติ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จากศาลจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภโพธิ์แก้ว หลังจากหนีกบดานปอยู่กับญาติเกือบ 1 อาทิตย์ โดยมีญาติและทนายความซึ่งได้เตรียมหลักทรัพย์มาเพื่อเตรียมขอประกันตัวในวันนี้ โดยทางพล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่าในวันนี้ได้เดินทางมาเร่งรัดสำนวนในคดีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความรัดกุมและชัดเจนเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสท โดยรับว่าเป็นคนยิงแต่มีมูลเหตุในการก่อเหตุ ซึ่งทางตำรวจก็ได้มั่นใจในพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งได้มีการรวบรวมไว้แล้ว โดยตอนนี้ยังเหลืออาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุก็จะมีการนำผู้ต้องหาไปค้นหา ซึ่งตอนนี้ได้สอบปากคำในลายละเอียดไว้แล้ว โดยการทำแผนถ้ามีเวลาเหมาะสมก็จะมีการดำเนินการต่อไป ส่วนในเรื่องของการคัดค้านการประกันตัวนั้นอยู่ที่การสอบสวน ซึ่งอยู่ในกระบวนของกฎหมาย ซึ่งการอนุญาตหรือคัดค้านการประกันตัวนั้นก็ต้องอยู่ที่การสอบสวนว่ารูปคดีเป็นอย่างไรด้วย โดยการคัดค้านก็มีหลักการของการดำเนินคดีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันทางน้องชายและเพื่อนของผู้ตายซึ่งได้ทราบข่าวว่าผู้ต้องหามีการเข้ามามอบตัวได้เดินทางมาเพื่อขอดูหน้ามือยิง ซึ่งได้พบกับทางญาติของผู้ต้องหาและได้มีการเข้าพูดคุยเพื่อตกลงทำความเข้าใจกันในความขัดแย้งกระทั่งนำมาสู่การก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืน ซึ่งผู้ตายเพิ่งจะมีบุตรแฝด 2 คนอายุเพียง 4 ขวบที่ต้องมาสูญเสียหัวหน้าครอบครัวแบบกะทันหัน โดยสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว โดย นางบัว(นามสมมติ) อายุ 63 ปี ป้าของมือยิง ซึ่งได้เดินทางมาด้วย บอกว่า วันนี้ก็ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยถือว่าเป็นวิบากกรรมของคนทั้งคู่ที่ได้มาเจอและเกิดเรื่องขึ้นทางส่วนทางผู้ก่อเหตุก็ได้ขอโทษกับครอบครัวผู้ตายแต่วันนี้ก็น้อมรับปัญหาและต้องอดทนกับแรงความโกรธของญาติผู้ตาย ซึ่งวันนี้ได้พูดทำความเข้าใจกันแล้วและวันนี้ถึงเวลาที่เราเป็นฝ่ายผู้ก่อเหตุว่าจะมีการดูแลครอบครัวของผู้ตายอย่างไร มาหาทางออกร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายว่าในระยะยาวจะดูแลกันอย่างไรในอนาคตซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ขณะที่นายเก่ง น้องชายของผู้ตายบอกว่า วันนี้ก็ต้องให้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตามกระบวนการเจ้าหน้าที่ต่อไป ส่วนเรื่องการถ้าคิดแทนที่ชายได้คือวันนี้เขาก็ไม่อยากได้ถ้าเป็นไปได้ทุกคนก็อยากจะอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป ชีวิตของคนเราหนึ่งชีวิตของเราก็อยากจะอยู่อยู่แล้วเขาอยากจะสร้างครอบครัวของต่อไป แต่วันนี้เขาตายแล้วเรามีหน้าที่ก็จัดการงานศพของเขาให้ดีที่สุดก่อนที่จะเผาให้ร่างของเขากลายเป็นผงธุลีไปก็เท่านั้นเอง