ผ่านพ้นไปอีกสมรภูมิ สำหรับ การเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาตัวแทนของพรรคเดโมแครต ไปชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ เจ้าของตำแหน่งเดิมจากพรรครีพับลิกัน ในปลายปีนี้ โดยการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครตที่ว่านั้น ก็มีขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ “เนวาดา” รัฐทางตะวันตกของประเทศสหรัฐฯ รูปแบบการเลือกตั้ง ก็ใช้วิธี “คอคัส” ซึ่งได้เคยอธิบายไว้แล้วก่อนหน้า ในศึกเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐไอโอวา อันเป็นแรกที่เปิดประเดิมการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เหมือนเฉกเช่นทุกครั้ง ซึ่งจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง หรือดิลิเกต (Delegate)ในรัฐเนวาดาแห่งนี้ ก็ต้องบอกว่า มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน คือ 48 เสียง ให้บรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งได้พากันไขว่คว้ามาเป็นดิลิเกตที่สนับสนุนตน แม้การนับคะแนนถึง ณ ชั่วโมงนี้ ยังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็รู้ผล โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับชนะ ลำดับที่ 1 ปรากฏว่า ได้แก่ “นายเบอร์นี แซนเดอร์ส” ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา หรือสภาซีเนต แห่งรัฐเวอร์มอนต์ คว้าชัยไปแบบแล่นฉิว ผ่านฉลุย ม้วนเดียวจบ คือ ร้อยละ 46.6 พร้อมกับเก็บสะสมดิลิเกตมาไว้ในความครอบครองสะสมเพิ่มเติมมาอีก 11 เสียงเป็นอย่างน้อย ท่ามกลางความคาดหมายว่า หลังคะแนนถูกนับแล้วเสร็จ ส.ว.แห่งรัฐเวอร์มอนต์รายนี้ จะได้ดิลิเกตมาสะสมเพิ่มเติมได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่ง ณ เวลานี้ มีอยู่ในความครอบครองแล้ว 34 เสียง โดยคาดกันว่า เขาจะได้เพิ่มอีกอย่างน้อย 1 เสียง เป็น 35 เสียง เสร็จสิ้นการนับคะแนนที่เนวาดา ส่วนผู้ได้อันดับสองรองลงมาก็เป็น “นายโจ ไบเดน” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง “รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ” ในสมัย “ประธานาธิบดีบารัก โอบามา” ได้รับการโหวตไปด้วยคะแนนเสียงคิดเป็นร้อยละ 19.3 ซึ่งก็ถือว่า ห่างจากนายแซนเดอร์ส กว่าครึ่งต่อครึ่ง หรือกว่า 2 เท่า โดยได้รับดิลิเกตไป 5 เสียง ขณะที่ อันดับ3 ตกเป็นของ “นายพีท บูติเจิจ” อดีตเคยดำรงตำแหน่ง “นายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์” รัฐอินดีแอนา ผู้ได้รับการขนานนามว่า เป็นหนึ่งในผู้สมัคร “ม้ามืด” ของศึกตัวแทนเดโมแครตปีนี้ ได้รับคะแนนโหวตไปคิดเป็นร้อยละ 15.4 พร้อมกับได้รับดิลิเกตไปอย่างน้อย 3 เสียง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า นายบูติเจิจ อาจจะได้ดิลิเกตเพิ่มมาอีก 1 เสียง หลังการนับคะแนนเสร็จสิ้น เพราะแนวโน้มคะแนนโหวตในรัฐเนวาดานั้น นายบูติเจิจถือว่ามีกระแสคะแนนนิยมไม่เลวเลยทีเดียว ส่วนผู้สมัครรายอื่นๆ ไม่เว้นกระทั่งคนดังอย่าง “นายไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีกระเดื่องนามแห่งมหานครนิวยอร์ก” ไม่ได้รับดิลิเกตให้มาชื่นชมแม้แต่น้อย ผลรวมของดิลิเกตของผู้สมัครแต่ละคน หลังผ่านพ้นศึกคอคัสที่รัฐเนวาดา ปรากฏว่า นายแซนเดอร์ส เริ่มนำโด่งเหนือคู่แข่งคนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยสมาชิกสภาซีเนตแห่งรัฐเวอร์มอนต์รายนี้ มีดิลิเกตสะสมไว้ในมือแล้วถึง 34 เสียง และอาจจะได้เพิ่มมาอีก 1 เสียง หากการนับคะแนนที่รัฐเนวาดาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตามทรรศนะของบรรดานักวิเคราะห์ ผู้สันทัดกรณี ล้วนชี้ว่า กระแสนิยมของนายแซนเดอร์สในรัฐเนวาดาแห่นี้นั้นดีเหลือหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหมู่อเมริกันชนเชื้อสายละติน ที่พูดสแปนิช หรือภาษาสเปน โดยมีรายงานว่า เขาได้รับคะแนนเสียงจากคนกลุ่มนี้ถึงร้อยละ 51 นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า นายแซนเดอร์ส ก็ยังได้รับคะแนนนิยมจากอเมริกันชนคนรุ่นใหม่ คือ ผู้คนที่มีอายะระหว่าง 17 – 29 ปี ซึ่งเทคะแนนเสียงให้แก่เขาถึงร้อยละ 54 ทั้งนี้ ผลพวงชัยชนะของศึกคอคัสที่รัฐเนวาดา แม้กระทั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ก็ยังเอ่ยปากชมต่อนายแซนเดอร์ส ถึงขนาดเย้ยหยันแก่บรรดาผู้สมัครคนอื่นๆ ว่า เป็นผู้อ่อนแอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายไมเคิล บลูมเบิร์ก ที่ถึงขนาดประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า ไม่มีทางที่จะกลับมาเริ่มต้นหาเสียงได้ใหม่ หลังการดีเบตอันเลวร้ายยิ่งในประวัติศาสตร์ครั้งที่ผ่านมา พูดง่ายๆ ก็คือ ประธานาธิบดีทรัมป์ บอกผ่านไปยังนายไมเคิล บลูมเบิร์กว่า “กู่ไม่กลับ” สำหรับสถานการณ์ของอดีตนายกเทศมนตรีคนดังแห่งมหานครนิวยอร์กรายนี้ ขณะที่ สถานการณ์ของผู้สมัครรายอื่นๆ อย่างอดีตรองประธานาธิบดีไบเดน ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากไม่น้อยเหมือนกัน เพราะผ่านพ้นศึกเลือกตั้งขั้นต้นมาได้ 3 รัฐ แต่คว้าดิลิเกตได้เพียง 8 เสียง เท่านั้น ตามหลังนายแซนเดอร์ส แบบทิ้งห่าง หรือแม้แต่ถ้าเปรียบเทียบกับนายบูติเจิจ ผู้สมัครม้ามืด นายไบเดนก็ยังเป็นรอง เนื่องจากอดีตนายกเทศมนตรีแห่งเมืองเซาท์เบนด์ผู้นี้ มีดิลิเกตครอบครองแล้ว 22 – 23 เสียง โดยสถานการณ์ในพรรคเดโมแครต ดูเหมือนว่า สร้างความกระหยิ่มยิ้มย่องให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่น้อย เพราะเป็นไปตามใจหมาย ที่เขาจะประชันกับใครก็ได้ในพรรคเดโมแครต ยกเว้นนายไบเดน ซึ่งเขาประเมินว่า ตึงมือ และอาจเหนื่อยมากที่สุดหากได้เผชิญหน้าในสมรภูมิเลือกตั้งสนามใหญ่ สำหรับ ศึกเลือกตั้งขั้นต้นรัฐต่อไปของเดโมแครต ก็จะเป็นสังเวียนที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ในวันเสาร์ที่ 29 ก.พ. ซึ่งจะมีดิลิเกตถึง 63 เสียง ให้บรรดาผู้สมัครฯ ได้เก็บเกี่ยว