"วิรัช"เผย"ประวิตร"สั่งเฉียบคะแนนโหวตรมต.ให้เท่ากัน จับตา"บิ๊กตู่"ลุคใหม่สู้ซักฟอก ขู่แลกหมัดขุดอดีตสวนกลับฝ่ายค้าน "สุชาติ"กำชับ"ส.ส.พปชร."ห้าม"เจ็บ-ป่วย-ลา"วันอภิปรายไม่ไว้วางใจ มั่นใจ"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เป๊ะทุกเสียง รับเรื่องยาก"รมต."ได้เสียงเท่ากัน ด้าน"ชินวรณ์"ขู่ลงโทษส.ส.ประชาธิปัตย์ แหกคอกโหวตซักฟอกสวนมติพรรค ส่วน"ชวน"เทรนจนท.รับมือศึกซักฟอก 24 -27 ก.พ. ยันเครื่องลงมติไม่มีปัญหา "บิ๊กป้อม"พร้อมอ้าแขนรับ"ส.ส.อนาคตใหม่" หากย้ายซบพลังประชารัฐ ขณะที่"กกต."เตรียมประชุมวางแนวทางฟันอาญา"ธนาธร"คดีเงินกู้ 191 ล. ที่โรงแรมเวย์ โฮเทล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวสรุปผลการเตรียมการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ได้เชิญรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายมาร่วมในการสัมมนา แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้ซักถามกันอย่างกว้างขวางในประเด็นที่คาดการณ์จะถูกอภิปราย ถือว่าได้เนื้อหาสาระมากพอสมควร หลังการประชุมนี้จะนำข้อสรุปไปหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 24 ก.พ. เพื่อกำหนดเวลาแต่ละวันอย่างไร การตอบข้อชี้แจงจะให้ตอบลักษณะไหน จะตอบรวม 2-3 คน หรือตอบเลยทีละคน จากนั้นจะนำข้อหารือมาแจ้งต่อพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และประธานยุทธ์ศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ได้มาร่วมสัมมนาได้กำชับทุกพรรคว่าการโหวตของทุกพรรคต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันและคะแนนโหวตขอให้เท่ากันทุกคน ขอให้รอดูลุคใหม่ “บิ๊กตู่” สู้ศึกอภิปราย นายวิรัช กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราจะไม่ประมาท เป็นห่วงทุกคนเท่ากัน แต่อาจจะดูของนายกฯ มาก และละเอียดหน่อยเพราะถูกกล่าวหามากสุด 28 บรรทัด 35 ข้อกล่าวหา ขณะที่รัฐมนตรีรวมกันก็ 28 บรรทัด ส่วนส่วนร.อ.ธรรมนัสถูกกล่าวหา 4 บรรทัด หากตัดชื่อตำแหน่งเหลือ 3 บรรทัด อย่างไรก็ตามแม้นายกฯ ไม่ได้มาร่วมสัมมนาครั้งนี้ แต่ได้ส่ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาร่วมรับฟังแทน และเชื่อว่านายกฯ คงมอร์นิเตอร์การสัมมนาทุกระยะ และนายกฯ รู้ว่ามีเรื่องใดถูกกล่าวหา คงเตรียมการแก้ไขไว้แล้ว ส่วนเรื่องอารมณ์ของนายกฯ นั้นขอให้รอดูลุคใหม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเกี่ยวกับอดีตมากกว่าปัจจุบัน ยกเว้นกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถ้าย้อนหลังเรื่องอดีตประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ คงพอรับได้ แต่ถ้า 50 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ คงจะมาสอบถามว่าหากจะอภิปรายเรื่องอื่นต้องเปลี่ยนญัตติใหม่ จะใช้ญัตตินี้ไม่ได้ อยากให้อภิปรายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องจากที่ได้รับโปรดเกล้าฯ คงไม่ประท้วงหากอภิปรายย้อนอดีตคงจะปรึกษาประธานสภาฯ ว่าจะให้พวกตนเตรียมตัวหรือปฏิบัติตัวอย่างไร ถ้าเราจะขอตอบย้อนหลังไปถึงรัฐบาลก่อนหน้านี้ด้วย ก็อาจจะเป็นปัญหา ฉะนั้นอย่าไปย้อนอดีตเลยขอให้เอาปัจจุบันของรัฐบาลนี้ ส่วนพรรคเล็กระบุว่าจะขอฟังข้อมูลฝ่ายค้านก่อนก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีเวลาปรับความเข้าใจกันกว่าจะถึงวันโหวต ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธานส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการควบคุมเสียงส.ส.ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การโหวตของส.ส.รัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เป็นหน้าที่หลักของคนเป็นผู้แทนราษฎรในการลงมติในญัตติต่างๆ ที่สำคัญ ตนได้กำชับส.ส.ในพรรคพปชร. ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามลา มั่นใจว่าส.ส.ทั้งหมดของพรรคอยู่ครบแน่นอน เพราะทุกคนรู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว "เราได้ข้อความร่วมมือฝ่ายค้านไปแล้วให้อภิปรายอยู่ภายใต้กรอบ อาจนอกประเด็นได้บ้าง แต่ถ้าเลยเถิดไปมากก็ต้องใช้ข้อบังคับให้การอภิปรายอยู่ในกรอบกติกา ซึ่งแกนนำฝ่ายค้านได้รับปากและได้กำชับต่อไปยังผู้ที่จะอภิปรายแล้ว ส่วนคนที่อภิปรายตีกัน ประชาชนทางบ้านจะเป็นผู้ตัดสิน ในอนาคตเขาเองก็จะลำบาก สังเกตได้จากนักการเมืองในอดีตที่ไม่ยึดกติกา ข้อบังคับต่าง ๆ สุดท้ายก็ไม่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีก เป็นบทลงโทษจากประชาชน ทุกวันนี้ประชาชนชอบนักการเมืองรุ่นใหม่ในการอภิปราย" เมื่อถามว่า ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคสช. ฝ่ายค้านห้ามแตะต้องเลยใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แตะได้บ้างในการโยงประเด็น แต่ถ้าพูดลึกมาก ผู้ที่ถูกอภิปรายบางคนก็อาจตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอดีต และส.ส.รัฐบาลก็ยังใช้ข้อบังคับ เพราะถือเป็นเรื่องเก่าวนเวียนซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม ในการสัมมนาเตรียมความพร้อมวันนี้ เป็นการเตรียมพร้อมโดยเฉพาะในเรื่องข้อบังคับ และได้ซักซ้อมหากวันอภิปรายเจอเหตุการณ์รูปแบบต่าง ๆ จะให้ใครรับมือหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ได้รับมอบหมาย เป็นผู้มีความอาวุโส นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับเสียงโหวตในการลงมตินั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร. ได้ระบุไว้ชัดเจนแล้ว เราเป็นพรรคร่วมด้วยกัน ฉะนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พวกเราก็คือรัฐบาล จะไม่มีการแบ่งแยกเป็นพรรคใดพรรคหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่รัฐมนตรีแต่ละคนจะได้เสียงโหวตเท่ากันนั้น เป็นไปได้ยาก คะแนนเสียงอาจจะห่างกันเล็กน้อยไม่เกิน 5-6 เสียง ไม่ถึงขั้นเป็นหลักสิบ ถือเป็นเรื่องปกติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มั่นใจว่าจะได้คะแนนครบทุกเสียง เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมที่กำแพงเพชร เขต 2 ในวันนี้ พรรคพลังประชารัฐ จะชนะการเลือกตั้ง เพราะเป็นฐานเสียงเดิม รัฐบาลจะได้เพิ่มอีก 1 เสียง ด้าน นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร(วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการสัมมนาเตรียมรับมืออภิปรายของวิปรัฐบาล ว่า แนวทางที่ได้จะนำไปแจ้งที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนการลงมติเมื่อเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมสนับสนุนเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อเสียงที่มีเอกภาพ ภายใต้ความเชื่อร่วมกันว่ารัฐมนตรีสามารถชี้แจงทุกคำถาม เมื่อถามว่า จะคุมเสียงโหวตของพรรคได้หรือไม่ว่าต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เสียงเท่ากัน นายชินวรณ์ กล่าวว่า เรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสำคัญที่สุดในสภา ถ้าไม่ลงเท่ากับประหารชีวิตคนอื่น ถึงแม้เสียงในสภาให้ผ่านสภาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญคือมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภา ถ้าไม่ลงต้องถือว่าต้องเป็นความรับผิดชอบของแต่ละคน แต่ละพรรคไป ส่วนบทลงโทษก็เป็นกฎทั่วไปอยู่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีวินัย เชื่อว่าทุกคนก็ต้องทำตามมติพรรค เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะกำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.หรือกำหนดให้เป็นมติพรรค นายชินวรณ์ กล่าวว่า โดยหลักต้องเป็นมติพรรคอยู่แล้ว แม้แต่การโหวตในญัตติปกติก็ต้องมีมติของพรรคอยู่แล้วที่จะให้ส.ส.ได้มีมติไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อถามว่า แต่มีบางคนเคยแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก่อนหน้านี้ โหวตสวนมติพรรคเราจะมีมาตรการอย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า ญัตตินี้สมมุติไม่ได้ เพราะเป็นญัตติที่สำคัญ เพราะฉะนั้นถ้าจะไปสมมุติใครจะไม่ลง ต้องมีเหตุผลพิเศษหรือต้องรับผิดชอบ ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นัดผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างวันที่ 24 -27 ก.พ. โดยนายชวน เปิดเผยว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมการทั้งเรื่องสถานที่และเครื่องมือ โดยวันนี้เป็นการหารืออีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรไม่พร้อมบ้างส่วนปัญหาเครื่องลงมติ ความจริงเครื่องลงมติไม่มีปัญหา แต่ที่มีปัญหาเฉพาะกรณีการลงคะแนนแทนกัน ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการทดสอบเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าใช้งานได้ตามปกติ แม้จำนวน ส.ส.จะลดลง แต่เครื่องลงมติก็ยังไม่พออยู่ดี จึงต้องเผื่อเวลาให้สมาชิกผลัดกันใช้เครื่องลงมติ อย่างไรก็ตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นเรื่องปกติของการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นมาตรการการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารที่เข้มข้นที่สุด นายชวน กล่าวว่า ส่วนส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ได้คุยกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึงจำนวนองค์ประชุมแล้ว โดยสัดส่วนก็จะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในส่วนของกรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อคงไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาทดแทนได้ และการจัดสรรตำแหน่งในกรรมาธิการก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่คงไม่ทัน อาจจะต้องเป็นสมัยประชุมครั้งต่อไป วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของศาล ซึ่งตนไม่ขอก้าวล่วง ทุกอย่างเป็นไปตามรูปคดี ส่วนจะปลุกระดมมวลชนหรือไม่ ก็ขอให้ว่าไปตามกฏหมาย กฏหมายว่าอย่างไรก็ว่ากันไปตามกฏหมาย หากขออนุญาตก็สามารถทำได้ และขณะนี้ไม่ต้องจับตาอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่เตรียมเคลื่อนไหวในหลายจังหวัด จะทำให้เกิดความวุ่นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หากขออนุญาตก็ไม่ต้องกลัวว่าจะวุ่นวาย เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลให้ความปลอดภัย เมื่อถามว่า นายปิยะบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาพูดว่า “ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่องนี้จะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ” พล.อ.ประวิตร ระบุ เขาคิดไปเองว่ามีผู้กำกับ ส่วนจะหมายถึงใครตนไม่รู้ ให้ไปถามคนที่พูด เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะกระทบต่อความเชื่อมของประชาธิปไตยในสายตาต่างชาติหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญใครก็รัฐธรรมนูญมัน ยืนยันว่าทำตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง ทุกอย่างที่รัฐบาลทำ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เมื่อถามอีกว่า ส.ส.อนาคตใหม่ จะย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ขณะนี้ยังไม่มีติดต่อเข้ามา แต่ทางพรรคเปิดกว้าง ใครจะมาอยู่ ก็มาอยู่ ใครไม่อยากมา ก็ไม่ต้องมา” ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรม กกต. เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต. วันที่ 24-25 ก.พ.นี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญากับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยความผิดคดีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท โดยจะต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาศึกษารายละเอียด รวมถึงต้องศึกษาข้อกฎหมายและรายละเอียดความผิดที่ชัดเจน ก่อนฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญาส่วนการดำเนินการกับอีก 16 พรรคการเมืองที่มีลักษณะการกู้ยืมเงินเช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่นั้น ยืนยันว่า กกต. จะมีการตรวจสอบทั้งหมด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และพยานหลักฐาน