"ลลิล พร็อพเพอร์ตี้"เปิดทาวน์โฮมใหม่ "ไลโอ บลิสซ์ รังสิต-บางพูน" ชูทำเล-ราคา-ดีไซน์ เจาะตลาดแนวราบ มั่นใจกำลังซื้อพุ่งรับกระแสรถไฟสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ LALIN ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดพรีเซลโครงการทาวน์โฮมใหม่ ‘ไลโอ บลิสซ์ รังสิต-บางพูน’เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพบว่า กำลังซื้อกลุ่ม Real Demand ในทำเลดังกล่าวให้ความสนใจและตัดสินใจซื้อโครงการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันปิดเฟส 1แล้ว เพราะลูกค้าเห็นถึงมูลค่าเพิ่มของทำเลที่แน่นอนว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ขยับสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะกระแสตอบรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่ถือเป็นอีกปัจจัยหลักที่เพิ่มมูลค่าให้ย่านดังกล่าวแบบชัดเจนมื่อเปิดใช้จริงในปี 2564 ทั้งนี้จากการสำรวจภาพรวมกำลังซื้อในย่านดังกล่าวพบว่า ประเภทโครงการที่เป็นที่ต้องการในย่านรังสิต-บางพูน ยังเป็นทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวระดับราคา 2-3 ล้านบาท การนำเสนอ ‘ไลโอ บลิสซ์ รังสิต-บางพูน’ สู่ตลาดจึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมเพื่อดูดซับกำลังซื้อ real demand ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ประกอบกับการที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้จึงพัฒนาแบบบ้านใหม่ที่เน้นเรื่องฟังก์ชั่นของบ้านให้คุ้มค่าทุกตารางเมตร ที่สำคัญสามารถอยู่อาศัยได้ในระยะยาว โดยโครงการไลโอ บลิสซ์ รังสิต-บางพูน ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนพื้นที่ 23 ไร่ รวม 240 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท โดยใช้แนวความคิด Design for Urban Lifestyle เพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองกับแบบบ้านสไตล์ฝรั่งเศส(Modern Geometry)ที่เน้นความคุ้มค่าด้านการใช้งานเป็นสำคัญมาพร้อมกับความเรียบง่าย สะดวก ประหยัดพลังงาน และอยู่สบาย โดยมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ประกอบด้วยแบบบ้าน Cher พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ และแบบบ้าน Cherish พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้นที่ 1.99-3 ล้านบาท “ปัจจุบันบางพูนและรังสิตฝั่งตะวันตกมีการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัยที่หลากหลายโดยเฉพาะแนวราบ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามเส้นถนนติวานนท์-ปทุมธานี และรังสิต-ปทุมธานี นับเป็นทำเลที่มีการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยมากที่สุดย่านหนึ่ง เนื่องจากมีแรงงานในพื้นที่และกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่รองรับ โดยทำเลบางพูนจะพลิกโฉมอย่างมากเมื่อรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) บางซื่อ-รังสิต ที่ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะทางรวมทั้งหมด 26.3 กิโลเมตร เปิดดำเนินการในปี 2564 โครงการดังกล่าวได้รับก่อสร้างเป็นทางยกระดับจากสถานีกลางบางซื่อไปถึงสถานีดอนเมือง แล้วลดระดับลงมาเป็นระดับพื้นดินเมื่อพ้นจากสถานีดอนเมืองไปจนถึงสถานีรังสิต เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 3 สายคือ MRT สายสีน้ำเงินสถานีบางซื่อ,สายสีแดงอ่อน (ศาลายา-หัวหมาก),แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ) ขณะที่ทำเลย่านรังสิตฝั่งตะวันตก สามารถเชื่อมต่อไปสู่ทั้งตัวเมืองกรุงเทพฯ และจังหวัดนครนายกได้สะดวก ทำให้ทำเลนี้เป็นแหล่งยอดนิยมสำหรับการพักอาศัย รูปแบบตลาดที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านแนวราบ โดยมีระดับราคาระหว่าง 2-3 ล้านบาท หากพัฒนาตามแนวถนนรังสิต-นครนายก สามารถขยับราคาได้เพิ่มเป็น 3-6 ล้านบาทขึ้นไป