ศาลไม่ให้ประกันอดีต สส เชียงใหม่ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ และนายบุญเลิศ อดีตนายก อบจ เชียงใหม่ พร้อมพวก คนผู้ต้องขังในเรือนจำ ขึ้นศาลทหารเพื่อฝากขังรอบที่สอง รอลุ้นอีกวันที่ 26 สค.นี้รอบสาม ขณะที่ทนายผู้ต้องหาระดมคน หลักทรัพย์และนายประกันยื่นขอประกันตัวเป็นรายบุคคล หลังรอบแรกวืด “จำนง”เสียงอ่อนรับต้องขอความเมตตาต่อศาลเท่านั้น ยันเหตุระเบิดไม่กังวลและไม่เกี่ยวกับคดีนี้ จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวิศรุต คุณะนิติสาร พนักงานเทศบาลตำบลช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ คนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่นและนายสามารถ ขวัญชัย ซึ่งให้การรับสารภาพว่าได้รับการสั่งการจากเครือข่ายผู้มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองให้ไปดำเนินการแจกใบปลิวต่อต้านการออกเสียงประชามติและจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้จับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ประกอบด้วยนายบุญเลิศบูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ , นางสาวทัศนีย์บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกอบจ.เชียงใหม่ นายคเชน เจียกคจร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลช้างเผือก ทันตแพทย์หญิงธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ น้องสาว น.ส.ทัศนีย์ นายไพรัช ใหม่ชมพู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่นายอติพงษ์ คำมูลเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือก นายกฤตกร ไพทะยะ คนขับรถผู้บริหารเทศบาลช้างเผือกน.ส.เอมอร ดับโศรก นางสุภาวดี งามเมือง นางกอบกาญจน์ สุคีตา ตกเป็นผู้ต้องหาและถูกดำเนินคดีอาญาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง และ ม.210 สมคบกันตั้งแต่ 5คนขึ้นไปกระทำการเข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจร รวมถึง พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วงเล็บ 2 และวงเล็บ 4 ที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่และทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยทั้งหมดถูกศาลทหารส่งตัวฝากขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่และทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ และทางฝ่ายทนายได้มีการขอยื่นประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดโฉนดที่ดินฉลากออมสิน แต่ละคนใช้หลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่าล้านบาทหลังครบฝากขังรอบแรกแต่ศาลไม่ให้ประกันโดยมีเหตุผลว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 ส.ค.59 ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ ทางเรือนจำและทัณฑสถานได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ซึ่งแต่งกายด้วยชุดของผู้ต้องขัง และตีตรวนที่ข้อเท้า มาที่ศาลทหารฯ เนื่องจากครบกำหนดฝากขังและคาดจะขยายเวลาฝากขังต่อ ทั้งนี้ช่วงเวลาดังกล่าวมีญาติของผู้ต้องหามาเยี่ยมและให้กำลังใจด้วยอาทินายปรีดิกร ลูกชายคนโตของนายบุญเลิศ พร้อมด้วย นายจำนงค์ ไชยมงคล ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหาพร้อมทีมงานได้เดินทางมาที่ศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำเอกสารและหลักทรัพย์ยื่นประกันตัว นายจำนงค์ กล่าวว่า หน้าที่ของทนายคือยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอประกันตัวชั่วคราวเท่านั้น หลักประกันก็คล้ายกับของเดิม โดยอาจจะแยกเป็นหลายคนมากขึ้น ใช้เงินสดมากขึ้นเพื่อความสะดวก โดยครั้งนี้จะแยกประกันเป็นรายคน โดยใช้เงินสดรายละ 1 แสนบาท ส่วนหลักประกันจะรวม แต่บางคนหลักประกันอาจจะมากกว่า ส่วนการพบเจอกับกลุ่มผู้ต้องขังทั้งหมดนั้น ก่อนตัดสินวันที่ 8 ส.ค. ก็มีการพบกัน แต่หลังจากวันที่ 8 ส.ค. มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการพบกันมาเลย สำหรับความคาดหวังก็ต้องขอความเมตตาจากศาลฯ เพียงอย่างเดียว เพราะว่าเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เป็นเรื่องจดหมายฉบับเดียว ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่การลงประชามติแล้วมีเหตุระเบิดจากที่ต่างๆ มีความกังวลหรือไม่ในเรื่องการขอประกันขณะนี้ ที่อาจจะเป็นผลให้ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวได้นั้น นายจำนงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกันเลย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของจดหมายหนึ่งฉบับ ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นผู้ต้องขังก็อยู่ในเรือนจำอยู่ ไม่ได้กังวลประเด็นนี้อยู่แล้ว ก็คงว่ากันด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และที่สำคัญต้องขอความเมตตาจากศาลอย่างเดียว อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ได้นำตัวผู้ต้องหาชายทั้งหมดขึ้นรถ เช่นเดียวกับผู้ต้องหาหญิงที่เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่นำตัวขึ้นรถกลับไปคุมขังยังเรือนจำ ส่วนขั้นตอนการยื่นขอประกันตัวปรากฎว่าศาลทหารพิจารณาไม่อนุญาตให้ประกัน...