เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 22 ก.พ.63 ที่โรงแรม Way Hotelอ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการสัมมนาเพื่อเตรียมพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า จากข้อมูลของสื่อที่คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) อยากให้ยกมือสนับให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่ากันนั้น คงต้องดูเป็นกรณีไป เช่น เรื่องคุณสมบัติ การเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถ้าชี้แจงข้อมูลคดีชัดเจนและเป็นเรื่องจริงเราต้องฟัง และต้องหารือในวิปรัฐบาลอีกครั้ง การจะยกมือสนับสนุนใครก็ตามถ้าฝ่ายค้านข้อมูลถูกต้อง เราก็ยกมือลำบาก ขอฟังข้อมูลจะดีที่สุด ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นนั้น เราจะทำหน้าที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากฝ่ายค้านนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จเราก็ต้องคัดค้านตามข้อบังคับการประชุม แต่หากฝ่ายค้านมีข้อมูลรัฐมนตรีรายบุคคลที่ค่อนข้างชัดเจนดำเมี่ยม แล้ววิปรัฐบาลมีมติให้เรายกมือให้ก็ต้องมาคุยกันใหม่ แม้แต่เทา ๆ ก็ให้ไม่ได้ ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐไม่เคยช่วยคนผิด ดังนั้นรัฐมนตรีคนไหนที่มีเรื่องทุจริต ไม่มีทางที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐจะยกมือโดยเป็นไปตามมติวิปรัฐบาล เพราะตนเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาล จะมีความหนักใจ ตอบประชาชนและสังคมไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการบกพร่องโดยประมาทเลินเล่อ ไม่มีความผิดอะไรร้ายแรง เราผ่านให้ได้ แต่ถ้าตั้งใจทุจริตก็ยาก ชาติหน้าก็ไม่ยกมือให้ เราต้องดูเอกสารที่ฝ่ายค้านชี้แจงถ้าถูกต้องตามกฎหมาย มีการยืนยันจากหน่วยงานราชการก็ต้องรับฟัง เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านเปิดเผยหลักฐานเกี่ยวกับคุณสมบัติรัฐมนตรีบางคน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูเอกสารทางราชการว่าเป็นเอกสารวินิจฉัยของศาลออสเตรเลียว่ามีคำรับรองจากทางการออสเตรเลียอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ต้องไม่ใช่เอกสารตัดแปะ และต้องมีเอกสารฉบับแปล โดยมีลำดับการรับรองตามขั้นตอนจากกระทรวงการต่างประเทศ และถ้าชัดเจนขนาดนั้นเราก็ต้องไปดูคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ด้วยว่าขัดหรือไม่ ถ้าหากคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ ตนเชื่อว่ามติวิปรัฐบาล รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็คงต้องได้คุยกัน ถ้าจะให้เราฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราก็ไม่อยากทำอย่างนั้น ตนเชื่อว่าหลายคนส่วนใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเป็นคนดี แต่ต้องอย่าลืมว่าไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ ฉะนั้นต้องมีส่วนเสีย 2-3 เปอร์เซ็นต์ เราก็เขี่ยออกเพื่อทำให้รัฐบาลทำงานได้ราบรื่น