นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัวระบุว่า "การยุบพรรคอนาคตใหม่ คือหนึ่งในตัวอย่างสงคราม 2 ระบอบประชาธิปไตย & เผด็จการ การยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะนี่มันคือสงคราม ประชาธิปไตย กับ เผด็จการ องคาพยพฝ่ายเผด็จการทรราช มีสรรพกำลังพร้อมสรรพ์ ทั้งนายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูง องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม พรรคการเมืองบางพรรค นักการเมืองหลายกลุ่ม หลายคน การจัดกระบวนทัพเป็นระบบ มีรูปแบบ มีพิมพ์เขียว จากคณะเสนาธิการ ทุกก้าวย่างและการกระทำออกมาจากวอร์รูม ของมันสมองชั้นเลิศ ฝ่ายประชาธิปไตย 7 พรรคฝ่ายค้านและมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย แม้จะมีมากกว่าฝ่ายเผด็จการ 3 ใน 4 ส่วน แต่ขาดการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างมีเอกภาพ ไม่มีวอร์รูม ต่างคนต่างทำ ต่างพรรคต่างขับเคลื่อน จึงไร้พลังที่จะต่อกรกับฝ่ายเผด็จการ หากไม่เปลี่ยนแปลงแนวรบ เปลี่ยนวิธีการต่อสู้ ยังคงสู้ในกรอบและวิธีการแบบเดิมๆ ในกฎโจรกบฏ เช่นที่เป็นอยู่ นอกจากจะไม่มีวันชนะเผด็จการซ่อนรูปได้แล้ว ฝ่ายประชาธิปไตยและแกนนำฝ่ายประชาธิปไตยจะค่อยๆถูกกำจัดออกไปทีละพรรค ทีละคน จนไม่มีทางชนะเผด็จการได้อีกต่อไป ผลลัพธ์คือ คนไทย ประเทศไทย จะถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ถูกกดขี่ ข่มเหง ให้เป็นทาส ไพร่ ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป การยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และยุบพรรคอนาคตใหม่วันนี้พอหรือยังกับบทสรุปแห่งสงคราม ที่มีแต่คนโง่ เท่านั้นที่สู้แบบเดิมๆ ในกฎ กติกาของโจรกบฏแบบเดิมๆ รู้ว่าแพ้และจะแพ้ซ้ำซากเช่นนี้ต่อไป ฝ่ายประชาธิปไตย ทุกพรรค และ อนาคตใหม่ที่พึ่งถูกยุบ อย่าท้อแท้ อย่าหวั่นไหว อย่าหวาดกลัว จงรีบสรุปบทเรียนแห่งสงคราม และขอเชิญชวนเหล่านักสู้ เหล่าผู้กล้า ฝ่ายประชาธิปไตยทุกท่านจงหลอมรวมจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตย รวมพลังเป็นหนึ่ง ลุกขึ้นสู้กับระบอบเผด็จการอย่างทรนง ไม่ยอมก้มหน้ารอรับความปราณีจากเผด็จการ ช่วยกันและกันล้างมรดกบาปแผ่นดินให้สิ้น ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย สร้างโครงสร้างของประเทศใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย นำมาซึ่งสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพให้บ้านเมืองของเรา เพื่อลูกหลานของเราทุกคนเถิด"