สีสันสวยงาม เด็กๆสวมผ้าถุงไหม โสร่งไหม ไปโรงเรียนทุกวันศุกร์ สวยงามทรงคุณค่าผ้าเมืองช้าง ตามวิถีพื้นบ้านนักเรียนชนบท วันนี้ (21 ก.พ.63) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เด็กๆนักเรียนโรงเรียนกระเทียมวิทยา เลขที่ 240 ม.2 ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ยังคงสวมใส่ผ้าถุงไหมและผ้าโสร่งไหม เดินทางไปเรียนหนังสือในทกวันศุกร์ มานานเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งเป็นนโยบายของทางโรงเรียนที่ต้องการให้เป็นการอนุรักษ์สิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่น เพื่อปลูกฝังให้เด็กๆได้ต่อยอดเพื่อที่จะทำให้ผ้าไหมพื้นบ้าน มีการสืบทอดไปยังเยาวชนรุ่นหลัง ให้เด็กๆได้เห็นคุณค่า และคุณประโยชน์ที่สามารถจับต้องได้ และใช้ได้ในชีวิตจริง ซึ่งในช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.30 น.จะพบว่า เด็กนักเรียนทั้งหญิงและชาย ต่างพากันสวมผ้าถุงไหม และผ้าโสร่งไหม เดินทางมาโรงเรียนกันอย่างคึกคัก บางคนจับกลุ่มกันเดินเท้ามาโรงเรียน บางคนขับขี่ซ้อนรถจักรยานยนต์กันมา บางกลุ่มนั่งรถโดยสารประจำทาง เดินทางมาโรงเรียน ก่อนที่จะมีคุณครูเวร คอยยืนทักทายเด็กๆนักเรียนอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน ซึ่งในเช้าวันนี้ นางอุดมพร สิงห์ชัย ผอ.โรงเรียนกระเทียมวิทยา ได้มายืนรอรับทักทายรับไหว้จากนักเรียนพร้อมอาจารย์อื่นๆด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าประทับใจแก่ผ้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่เด็กๆจะเดินเข้าไปในโรงเรียนเพื่อช่วยกันเก็บกวาดขยะ เศษใบไม้ใบหญ้าต่างๆเพื่อทำความสะอาดโรงเรียน ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าแถว เคารพธงชาติหน้าเสาธง และสวดมนต์ไหว้พระ กลางสนามฟุตบอลอย่างพร้อมเพรียงกัน สำหรับโรงเรียนกระเทียมวิทยา จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้น ม.1 ถึง ชั้น ม.6 มีเด็กนักเรียนทั้งหมดจำนวน 903 คน นางอุดมพร สิงห์ชัย ผอ.โรงเรียนกระเทียมวิทยา กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าว เริ่มจากการที่โรงเรียนกระเทียมวิทยาของเรามีอัตลักษณ์เด่น คือ กีฬาเด่น เน้นภูมิปัญญาผ้าไหมและใส่ใจสะอาด จึงสนับสนุนและส่งเสริมเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นของเรา โดยมีวิทยากรท้องถิ่น ซึ่งเป็นศิลปินโอท็อป เป็นผู้ให้การสนับสนุน โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมชุมนุมสืบสานเส้นสายใยไหม ชุมนุมของเราก็จะเชื่อมโยงกับการจัดกิจกรรมที่เป็นขบวนการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21 เน้นให้ผู้เรียนมีงานทำ ซึ่งเด็กๆของเราก็มีรายได้จากกิจกรรมภูมิปัญญาผ้าไหม ส่วนที่ให้เด็กนักเรียนสวมผ้าไหมมาโรงเรียนทุกวันศุกร์เพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ทำอย่างไรที่เราจะสานต่อ ปลูกฝังเด็กๆให้ต่อยอดเพื่อที่จะให้ผ้าไหมของเรา สืบทอดไปยังเยาวชนรุ่นหลัง ให้เขาเห็นคุณค่า เห็นคุณประโยชน์ที่สามารถจับต้องได้ และใช้ได้ในชีวิตจริง ซึ่งการดำเนินการของกิจกรรมชุมนุมเริ่มมา 10 กว่าปีแล้ว ส่วนการให้สวมใส่ผ้าไหมเริ่มจากคุณครูก่อนมานานหลายปีแล้ว และให้นักเรียนมีการสวมใส่ในกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ และมาในช่วง 2-3 ปีหลัง จึงได้ให้มีการสวมใส่ทุกวันศุกร์ เด็กที่สวมใส่ ต่างมีความรู้สึกว่าผ้าไหมมีคุณค่า ที่มาจากใจ จากพ่อแม่ที่ทำอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้นอะไรที่มาจากใจ นักเรียนก็ชอบ การสวมใส่เป็นลักษณะกายภาพ เมื่อสวมใส่แล้วดูสวยดูงาม ดูดี นักเรียนก็ชอบสวมใส่ ส่วนผ้าไหมมีการทอตั้งแต่ 2 ตะกอ 3 ตะกอ 5 ตะกอ ส่วนบ้านไหมที่มีผู้ปกครองทอเอง บางผืนที่นักเรียนสวมใส่มาโรงเรียนแพงกว่าของคุณครูก็มี แต่ละผืนมีตั้งแต่ 2-6 พันบาท ตนมีความเกี่ยวข้องกับผ้าไหมค่อนข้างลึกซึ้ง https://siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20200221/50ea3db3c2e7..." data-toggle="lightbox" data-gallersrc