จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jinyan Chen โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความว่า “โดนขโมยกระเป๋าค่ะ ไปกินข้าวกับเพื่อนที่เอสพลานาดรัชดา โดนผู้หญิง 2 คนนี้ขโมยกระเป๋าไป ในกระเป๋ามีของที่รักมาก สำคัญมากด้วย “พร้อมกับคลิปกล้องวงจรปิดของทางร้านอาหารที่ผู้เสียหายไปนั่งรับประทานอาหาร โดยจับภาพของคนร้ายเป็นหญิง 2 คน มาหยุดอยู่บริเวณหน้าร้านติดกับโต๊ะที่ผู้เสียหายนั่ง ก่อนจะใช้จังหวะเผลอยื่นมือมาคว้าเอากระเป๋าถือแบบสตรีใส่ถุงกระดาษและเดินหลบหนีไป ความยาวของคลิปนั้นเพียง 11 วินาที ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางแจ้งความไว้ที่ สน.ห้วยขวาง โดยเหตุเกิดช่วงหัวค่ำ วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 ก.พ.63 ที่ สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้สั่งการฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ น.ส.สุภาพร กัญญารัตน์ อายุ 53 ปี และน.ส.มาลี เชิดฉาย อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ที่ได้ก่อเหตุลักกระเป๋าถือแบรนด์เนม แบบสุภาพสตรี (ยี่ซีลีน Celine) ราคา 70,000 บาท ขณะเจ้าของนั่งรับประทานอาหารร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในห้างสรรพสินค้าดัง ย่านรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม.จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ปภิณวิช เสนาแปรง รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญารัชดา เลขที่ 239/2563 และ 240/2563 ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ฯ" และสามารถติดตามจับ น.ส.มาลี และน.ส.สุภาพร ได้ที่ชุมชนริมทางรถไฟยมราช หลังจากนั้นได้คุมตัวมาสอบสวน พ.ต.อ.ภูริส กล่าวเปิดเผยว่า จากการสอบสวนทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ทั้งคู่เป็นน้าหลานกันและเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยจะตระเวนไปตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ต่างๆ แล้วเดินไปมาภายในห้าง เพื่อเลือกหาเหยื่อหรือผู้เสียหายที่มีทรัพย์สิน แล้วอาศัยจังหวะที่เผลอเพื่อลงมือก่อเหตุ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ โดย น.ส.มาลี จะทำหน้าที่เป็นคนลงมือลักทรัพย์ ส่วน น.ส.สุภาพร ทำหน้าที่เป็นต้นทางสังเกตการณ์ ส่วนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มา จะนำไปขายและนำเงินมาดูแลลูกหลานและคนในครอบครัว พ.ต.อ.ภูริส เปิดเผยต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่า เคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 5 ครั้ง ในข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่ขะเป็นเสื้อชั้นในและกางเกงใน ย่านประตูน้ำและอนุสาวรีย์ ประกอบด้วย ปี 2555 ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน ปี 2558 ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ สน.นางเลิ้ง ปี 2559 ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ สน.พญาไท ปี 2560 แล้วกลับไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ สน.ปทุมวัน ต่อเนื่องปี 2560 ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.พญาไท และล่าสุดมาก่อเหตุในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ต่อ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนทรัพย์สินผู้เสียหายส่วนหนึ่งได้ส่งมอบคืนให้แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น ร่วมกันเอาเอกสารสำคัญของผู้อื่นไปโดยประการที่อาจจะเกิดความเสียหาย และคุมตัวฝากขังยังศาลอาญารัชดาภิเษก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทางด้านผู้เสียหายรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากนี้คงต้องเพิ่มความระมัดระวัง เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ที่ผ่านมาก็มีการป้องกันและระมัดระวังตัวเองมาโดยตลอด แต่ผู้ต้องหามีความเป็นมืออาชีพและทำเป็นขบวนการ ทั้งนี้ยังฝากขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันจนสามารถจับผู้ต้องหาได้