กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดหลักสูตร “หลักประกันส่งเสริมการลงทุน สนับสนุน SME ไทย” สำหรับผู้บังคับหลักประกัน ผู้ประกอบการและธุรกิจ SME เพื่อเสริมความรู้กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การเข้าจดทะเบียน และการวิเคราะห์ทิศทางด้านการเงิน การลงทุน รับมือกับการขยายตัวของธุรกิจที่ปัจจุบันได้ใช้ช่องทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สร้างการเติบโตให้ธุรกิจมากขึ้น ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้-2 มี.ค.63 นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีกำหนดจัดสัมมนาเรื่อง “หลักประกันส่งเสริมการลงทุน สนับสนุน SME ไทย” ในวันที่ 6 มี.ค.63 ที่ชั้น 6 ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยประสงค์ที่จะสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และกิจการซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้บังคับหลักประกัน ซึ่งมีหน้าที่บำรุงรักษา จัดการและดำเนินกิจการที่เป็นหลักประกันจนกว่าจะจำหน่ายกิจการที่เป็นหลักประกัน หรือฟื้นฟูกิจการให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายยังรวมไปถึงผู้ประกอบธุรกิจ SME นักลงทุน และประชาชนทั่วไป เพื่อเสริมความรู้ด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะเป็นช่องทางในการขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว “การอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เข้าร่วมเป็นวิทยากร ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานเป็นองค์กรหลักของประเทศที่ดูแลด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะบรรยายใน 2 หัวข้อหลักคือ 1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักทรัพย์ ประกอบด้วยกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวกับการลงทุนที่ธุรกิจจำเป็นต้องทราบ และการวิเคราะห์ทิศทางการเงิน การลงทุนในอนาคต 2.เตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบถึงวิธีเตรียมตัว คุณสมบัติของธุรกิจที่ต้องมีขั้นตอน รูปแบบ และค่าใช้จ่ายสำหรับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์” ทั้งนี้ปัจจุบันการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มีอัตราขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักลงทุนให้ความสนใจเปิดบัญชีหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น หากเปรียบเทียบข้อมูลในเดือนต.ค.61 มีผู้เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จำนวน 1,637,627 ราย และต.ค.62 มีผู้เปิดบัญชีฯจำนวน 1,797,926 ราย มูลค่าการซื้อขาย 2,047,519 ล้านบาท (ที่มา: www.set.or.th, สรุปข้อมูลสถิติสำคัญของตลาดหลักทรัพย์) คิดเป็น 109.8% ของจำนวนรายผู้เปิดบัญชีเพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่ามีนักลงทุนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น และในอนาคตมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก “ผู้บังคับหลักประกันจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน และสามารถให้คำแนะนำปรึกษาธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้เป็นอย่างดี เพราะมีความเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก ในทางกลับกันหากธุรกิจ SME ที่สนใจและมีความพร้อมจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์จะเป็นโอกาสสำคัญที่ธุรกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็วจากการระดมทุนของนักลงทุน ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมงานสัมมนาได้ตั้งแต่วันนี้-2 มี.ค.63 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆได้ที่ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ อบรม/สัมมนา” สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.พ.63 พบว่า การจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจมีจำนวนทั้งสิ้น 486,233 คำขอ และมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน คิดเป็นจำนวนเงิน 7,767,281 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภททรัพย์สินตามลำดับดังนี้ 1.สิทธิเรียกร้องจำนวน 5,997,237 ล้านบาท 2.สังหาริมทรัพย์จำนวน 1,766,911 ล้านบาท 3.ทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 1,985 ล้านบาท 4.กิจการจำนวน 621 ล้านบาท 5.อสังหาริมทรัพย์จำนวน 397 ล้านบาท 6.ไม้ยืนต้น 130 ล้านบาท รวมถึงขณะนี้มีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บังคับหลักประกันแล้วจำนวน 350 ราย