เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 ส.ค.59 พ.ต.ท.นิมิตร์ วัตสุวรรณ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีรถทัวร์ชนกับรถบรรทุกมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายที่บริเวณจุดกลับรถถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ กม.ที่ 136 บ้านสระพัง ต.สระพัง อ.เขาย้อย มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรีที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางถนนพบรถทัวร์นำเที่ยว 2 ชั้นยี่ห้อ VOLVO ของบริษัท ซีอาร์ วี ทรานสปอร์ต จำกัด สีขาว-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 32-9530 กรุงเทพฯ (ป้ายเหลือง) ในสภาพพลิกตะแคงขวา ที่บริเวณกระจกหน้ารถแตกได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 32 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้ขับขี่รถทัวร์คันดังกล่าว พลเมืองดี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และ รพ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ทั้งหมดอาการไม่สาหัส ห่างกันประมาณ 200 เมตร พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ IZUZU สีส้ม หมายเลขทะเบียน 70-0769 สมุทรสงคราม(ป้ายเหลือง) จอดอยู่ริมถนนฝั่งซ้าย ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายวิชิต ติบรรเทิง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/50 ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม สอบถามนายชัยรัตน์ ศรีศิลป์ อายุ 35 ปี ผู้ขับขี่รถทัวร์นำเที่ยวคันดัง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและทีมงานได้นำคณะทัวร์ชาวฝรั่งเศสพร้อมไกด์ จำนวน 30 คน เดินทางออกมาจากกรุงเทพฯเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงแรมเดอะ รีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท จ.เพชรบุรี ขณะเกิดเหตุตนขับอยู่เลนขวาสุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถบรรทุก 6 ล้อที่วิ่งอยู่เลนกลาง ได้แฉลบเข้ามาด้านซ้ายอย่างกระชั้นชิด ทำให้ตนตกใจและหักหลบจนเสียหลักรถพุ่งข้ามเลนไปชนกับเกาะกลางถนนจน พลิกคว่ำและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้านนายวิชิต ผู้ขับขี่รถบรรทุก 6 ล้อ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกผลไม้ออกมาจากตลาดไทย เพื่อที่จะไปส่งผลไม้ในพื้นที่สุไหงโกลก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ถนนลื่น ประกอบกับผลไม้ที่ตนได้บรรทุกมามีน้ำหนักมาก ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้จึงได้พยายามเบรกรถของตน ทำให้รถทัวร์นำเที่ยวที่ขับตามมาด้านหลังเบรกตาม และเกิดเสียหลักชนเกาะกลางถนนพลิกคว่ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ก็จะประสานส่วนเกี่ยวข้องดำเนินให้การช่วยเหลือต่อไป