จับแล้ว หนุ่มโหด บุกยิงอดีตเมียสาวพนักงานคลินิกเสริมความงามดับคาห้างดังย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปจนมุมที่จ.เพชรบุรี สารภาพก่อเหตุเพราเรื่องหึงหวง ด้าน“พี่สาวผู้ตาย”ยันน้องสาวไม่เคยคบชู้ เหตุที่ต้องหย่สร้างเพราะถูกอดีตสามีทุบตีเป็นประจำ สุดแสบหลังก่อเหตุเขียนจดหมายหลอกตำรวจจะไปยิงชู้ต่อที่จ.พะเยา แต่แอบหลบหนีไปกบดานที่จ.เพชรบุรี แต่สุดท้ายไม่รอด จากกรณี นายดนุสรณ์ หรือเจ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ก่อเหตุยิง น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย อดีตภรรยาสาว เสียชีวิตกลางห้างดังย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานว่านายดนุสรณ์ โกรธแค้นที่อดีตภรรยาตีจากและแอบคบหากับชายหนุ่ม เนื่องจากมีจดหมายขู่ว่าจะตามไปฆ่าชายคนดังกล่าวด้วย ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไป ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายดนุสรณ์ หรือ เจ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ขณะหลบหนีอยู่ในพื้นที่จ.เพชรบุรี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมฝากชื่นชม และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชน ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผบช.น. ได้เดินทางยัง สน.พญาไท เพื่อสอบปากคำนายดนุสรณ์ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สาเหตุมาจากความหึงหวง ซึ่งหลังก่อเหตุนายดนุสรณ์ได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซอยหมอเหล็ง ก่อนหลบหนีไปที่จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้านญาติ กระทั่งถูกตำรวจปิดล้อมจับกุม โดยมีแม่ของนายดนุสรณ์เข้าร่วมเกลี้ยกล่อมใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ทั้งนี้ นายดนุสรณ์ ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และ5.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน วันเดียวกัน พี่สาวของ น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย ผู้ตาย ได้เดินทางมายังสน.พญาไท เพื่อให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม รวมถึงทำเรื่องขอรับศพ พร้อมเปิดเผยว่า ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น้องสาวส่งข้อความมาหา ระบุว่าต้องหนีจากนายดนุสรณ์ เพราะอึดอัด ทนไม่ไหว หากอยู่ต่อต้องโดนฆ่าแน่นอน เพราะตลอดเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา น้องสาวถูกทำร้ายร่างกายจนตัวบอบช้ำไปทำงาน และร้ายแรงที่สุดคือฝ่ายชายข่มขู่ว่าหากเลิกกันจะฆ่าพ่อและแม่ของน้องสาว จนน้องสาวต้องหนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี แต่ฝ่ายชายกลับตามไปข่มขู่ว่าหากไม่กลับมาจะฆ่าญาติพี่น้องให้หมด “ฝ่ายชายไม่เคยส่งเสียเงินเลี้ยงดูลูกตัวเอง แต่เป็นทางพ่อและแม่ของน้องสาวที่เป็นคนดูแลทั้งหมด ยืนยันว่าน้องสาวตัวเองไม่เคยมีชู้ แต่ทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ได้ ซึ่งผมพยายามที่จะกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยัน” พี่สาว น.ส.ปิยานุช กล่าว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ นายดนุสรณ์ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กและเขียนจดหมายทิ้งไว้ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ย้ำชัดว่าจะขอไปจัดการกับชู้เป็นรายต่อไป หลังจากนั้นจะขอปลิดชีวิตตัวเอง โดยระบุว่าจะไปที่ จ.พะเยา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเดินทางมุ่งหน้าไปที่จ.พะเยา เนื่องจากเกรงว่าชายคนใหม่ที่คบหากับน.ส.ปิยานุช จะเป็นอันตราย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านายดนุสรณ์กลับถูกจับกุมในพื้นที่จ.เพชรบุรี อาจมองได้ว่าเป็นเส้นทางลงพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งตรงกันข้ามกับที่ได้เขียนข้อความบอกไว้ ทั้งนี้แม้ผู้ต้องหาจะหลอกล่ออย่างไรก็ไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็ว ****************************************