อนค.จี้ ผบ.ทบ.ลาออก -กองทัพรับผิดชอบค่าเสียหายกราดยิงโคราช ด้าน “คารม” เหน็บหากเป็นต่างประเทศ “นายกฯถูกฟ้องไปแล้ว วันที่ 19 ก.พ.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาขอให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาการกราดยิงในพื้นที่จ.นครราชสีมา เพื่อเสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณาหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก เป็นการพิจารณาต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยนางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า ขอเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ให้ลาออก เพราะการกราดยิงที่จ.นครราชสีมา เป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุด ควรแสดงสปิริตลาออก หากกองทัพสกัดเหตุได้ทัน มีคนในค่ายทหารออกมาติดตามคนร้ายอย่างทันท่วงที ความเสียหายคงไม่มากมายขนาดนี้ ขณะนี้สังคมมีฉันทามติร่วมกันว่าต้องปฏิรูปกองทัพจริงจัง เพราะวัฒนธรรมเจ้าขุนมูลนายทำให้เกิดการกดขี่ ละเมิดสิทธิมนุษยชนในกองทัพ ส่วนการบริจาคเงินช่วยเหลือนั้น ควรเป็นกองทัพรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว เพราะกระทรวงกลาโหมได้งบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ในกองทัพไม่มีระบบดูแลความปลอดภัยเรื่องการเก็บรักษาอาวุธในค่ายทหาร ชัดเจนว่ากองทัพหละหลวม ไม่มีการแจ้งตำรวจหรือหน่วยสกัดกั้น ภายหลังที่ถูกปล้นอาวุธออกไป วันนี้กองทัพต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ อย่าอายตัวเอง ผู้บริหารกองทัพควรปรับปรุงแก้ไขการบริหารงานในกองทัพ ต้องสร้างทหารให้มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เป็นทหารรับใช้ ไปกดขี่กัน ทหารต้องเป็นทหารอาชีพ ขณะที่นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า หากกองทัพยังไม่มีการบริหารจัดการที่ดี เหตุการณ์ที่จ.นครราชสีมา จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ เชื่อว่า กองทัพบก แม่ทัพภาค2 และนายกรัฐมนตรีถูกฟ้องไปแล้ว แม้จะบอกว่า ทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้าทำได้แค่นี้แล้วจะดูแลประชาชนได้อย่างไร เหตุการณ์นี้ควรเป็นจุดเริ่มต้นปฏิรูปกองทัพ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้านนายเทพไม เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถึงเวลาที่ต้องปฏิรูปกองทีพ และขอให้ย้ายหน่วยทหารที่ไม่จำเป็นออกไปอยู่นอกเมือง ทั้งนี้หลังจากสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางในที่สุดที่ประชุมเห็นพร้องกันโดยไม่ต้องลงมติ ส่งข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นไปยังรัฐบาลต่อไป