เป็นโรคที่ต้องระวังกันทั้งปี กับโรคไข้เลือดออก ที่อันตรายรุนแรงถึงเสียชีวิต ORYOR.COM ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ความรู้เรื่องของวัคซีนป้องกันโรคนี้ โดยระบุ “ไข้เลือดออก เป็นโรคจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue) โดยมีพาหะเป็นยุงลายตัวเมีย โดยไวรัสเดงกี่ที่ก่อให้เกิดโรคให้คนมี 4 สายพันธุ์ คือ DEN1, DEN2, DEN3 และ DEN4 อาการแสดงส่วนใหญ่ ได้แก่ มีไข้สูงเฉียบพลัน อ่อนเพลีย อาเจียนหรืออุจจาระเป็นเลือด มีจุดเลือดออกตามตัว รวมทั้งอาจเกิดภาวะหมดสติ และเสียชีวิต ดังนั้น จึงมีผู้คิดค้น วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกขึ้นมา เพื่อป้องกันการเกิดโรคไข้เลือดออก วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ผู้ที่ควรได้รับวัคซีน คือทุกคนที่มีอายุ 9-45 ปี และอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของไข้เลือดออก และเป็นผู้ที่ไม่มีข้อห้ามใช้จากการศึกษา ประโยชน์ของวัคซีนชนิดนี้พบว่า มีประสิทธิภาพป้องกันไข้เลือดออกทุกสายพันธุ์ (แต่ไม่ถึง 100%) นอกจากนี้ ยังสามารถลดการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออกได้ และลดอัตราการป่วยที่มีภาวะเลือดออกรุนแรงได้อีกด้วย การฉีดวัคซีน ภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นเต็มที่เมื่อฉีดครบ 3 เข็ม โดยแต่ละเข็มฉีดห่างกัน 6 เดือน สามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันไข้เลือดออกได้ 5-6 ปี นับจากวันที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ส่วนผลข้างเคียงที่มักพบ ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ มีไข้ อ่อนเพลีย ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกในผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของวัคซีน ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร และผู้ที่มีไข้ จะเห็นได้ว่า วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกมีประโยชน์ มีอัตราการป้องกันโรคไข้เลือดออกได้สูง ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงเกิดโรค บุคคลที่มีข้อบ่งใช้ตามที่กำหนดก็สามารถไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกกันได้”