หนุ่มตามง้ออดีตเมีย ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับคลินิกเสริมความงาม ภายในห้างเซ็นจูรี่ พลาซ่า ย่านพญาไท แต่สาวไม่ยอมคืนดี โมโหชักปืนยิงศีรษะเสียชีวิตคาที่ เพื่อนร่วมงานถูกลูกหลงบาดเจ็บอีก 1 ราย ก่อนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ ตำรวจเร่งวิทยุสกัดจับ ปมเหตุเรื่องชู้สาว เมื่อเวลา 15.30น. วันที่ 18 ก.พ. ร.ต.อ.วัลลภ อิสริยสกุลวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตภายในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ที่ชั้น 4 ห้างเซ็นจูรี่เดอะมูฟวี่ พลาซ่า แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่กู้ชีพนเรนทร และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 4 เป็นคลินิกเสริมความสวยความงาม จากการตรวจสอบบริเวณด้านหลังของโต๊ะประชาสัมพันธ์ พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย อายุ 28 ปี พนักงานคลินิกดังกล่าว สวมเสื้อผ้าเครื่องแบบของคลินิก ในสภาพนอนหงายจมกองเลือด ถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณศีรษะจำนวน 3-4 นัด เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งเข้าช่วยเหลือทำการซีพีอาร์ปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตโดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วิลาสินี ทีปั่น อายุ 30 ปี ถูกยิงบริเวณแขนด้านซ้าย นำส่ง รพ.พญาไท 2 ทางเจ้าหน้าที่ได้นำโปลิสไลน์มากั้นบริเวณโดยรอบและกันประชาชนทั้งหมดออกจากชั้นที่ 4 จากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 7 ปลอก จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นั่งอยู่ภายในคลินิกดังกล่าว พบเห็นคนร้ายยืนทะเลาะมีปากเสียงรุนแรงกับผู้ตาย บริเวณด้านหน้าคลินิกดังกล่าว 3-4 ครั้ง ก่อนจะมาเกิดเหตุสลดขึ้น นอกจากนี้พยานคลินิกดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนอยู่ในห้องด้านหลัง ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงปืน เมื่ออกมาหาพบว่า น.ส.ปิยานุช ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับนั่งหน้าเคาเตอร์ได้ล้มฟุบลง ตนจึงเข้าพยุงและรีบแจ้งตำรวจ ส่วนตัวไม่รู้จักนิสัยส่วนตัวกัน ในช่วงเช้า น.ส.ปิยานุช มีสีหน้าปกติไม่ได้เล่าเรื่องอะไรให้ฟัง เนื่องจากไม่สนิทกันมาก รายงานข่าวระบุว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้คือนายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ อดีตสามีที่ตามมาง้อแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงได้ชักอาวุธปืนจ่อยิง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปและอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี รายงานข่าวระบุอีกว่า ผู้ต้องหาและผู้ตายได้หย่าร้างกันที่สำนักงานเขตพญาไท เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเฟซบุ๊กของผู้ตายได้โพสต์ข้อความพร้อมภายใบสำคัญการหย่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พร้อมทั้งระบุข้อความว่า "คืนอิสระให้กันแล้ว ต่อไปนี้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีนะ ขอบคุณ 10 ปีที่ผ่านมา #แฟนเก่า" ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหรือชนวนของการก่อเหตุในครั้งนี้