“PRIME” มั่นใจปีนี้ ผลงานสดใส เติบโตสวนทางเศรษฐกิจ เตรียมลุยลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน ลุ้นดันพอร์ตเติบโต พร้อมลุยสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ใหญ่สุดในกัมพูชาเร็วๆนี้ นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘PRIME’ ผู้ผลิตพลังงานทดแทนระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าหมาย การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยวางกลยุทธ์ “Go Asia” มุ่งลงทุนโซลาฟาร์มในทวีปเอเชียและ “Go Local” มุ่งพัฒนาโรงไฟฟ้าในประเทศ โดยเตรียมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของกระทรวงพลังงาน คาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะลงทุนในโครงการ Quick Win ในปีนี้อีกด้วย ทั้งนี้ปัจจุบัน PRIME มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดรวม 287 เมกะวัตต์ โดยจ่ายไฟแล้ว 179 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาและก่อสร้าง 108 มกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นั้นอยู่ในประเทศไทยจำนวน 132.3 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 68.2 เมกะวัตต์ ในประเทศไต้หวันจำนวน 8.5 เมกะวัตต์ โดยล่าสุดบริษัทเตรียมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Farm ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ หลังจากชนะการประมูล ระดับนานาชาติ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมูล จากทั่วโลกกว่า 100 บริษัท โดยโครงการนี้มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้างที่จังหวัดกัมปงชนัง และด้วยประเทศกัมพูชาเป็น 1 ในประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรม และมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะมีโอกาสที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติม ในประเทศกัมพูชา “บริษัทมั่นใจว่า จะประสบผลสำเร็จในการขยายพอร์ตการผลิตไฟฟ้า จาก ปัจจุบัน 287 เมกะวัตต์เป็น 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 4 ปี โดยคาดว่าการเติบโตจะมาจากทั้งการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยอาศัยจุดแข็งของบริษัทคือ ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ โรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ความได้เปรียบด้านต้นทุน มีพันธมิตรธุรกิจระดับโลก และการได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงจากสถาบันการเงินระดับนานาชาติ อีกทั้งผู้บริหารของบริษัทมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในไทยกว่า 10 ปี โดยในส่วนการลงทุนต่างประเทศ บริษัทมุ่งเน้นประเทศที่มีศักยภาพ การเติบโตสูงและความต้องการพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก อาทิ ไต้หวัน เวียดนาม ลาว และกัมพูชา” สำหรับผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากรายได้รวม 377.5 ล้านบาท และ มีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากกำไรเบ็ดเสร็จรวม 161 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงินในธุรกิจไฟฟ้าในช่วง 9 เดือนแรกปี 2561 ปัจจุบันบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงประมาณ 42% ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ PRIME มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 17,017,941,757 บาท (ราคาพาร์ 1 บาทต่อหุ้น) และมีสถานะการเงินที่ดี ข้อมูลทางการเงิน 9 เดือนแรกปี 2562 ของธุรกิจโรงไฟฟ้า มีอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพียง 1.39 เท่า มีสินทรัพย์จำนวน 5,319 ล้านบาท และหนี้สินรวม 3,034 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 2,188 ล้านบาท