“บิ๊กแดง” เซ็นย้ายผู้พันต่อหน้าศาลพระเจ้าตากสิน ลั่น ใครทำอะไรไว้ ต้องรับผล ยัน ให้ความเป็นธรรม “มทภ.2” ไม่ใช่ เลือดเข้าตา สั่งย้ายหมด จ่อ ให้ กอ.รมน.แถลง สายตรงเรื่องร้องเรียน 18 ก.พ. เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ท้องพระโรง กองบัญชาการกองทัพเรือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยระหว่างรอการประชุม นั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับทางพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) โดยกำลังเซ็นหนังสือ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า กำลังเซ็นหนังสืออะไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนกำลังเซ็นคำสั่งปรับย้ายนายทหารระดับพันเอก และเซ็นย้ายจริง ไม่ได้พูดเล่น เพราะเซ็นต่อหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใครทำอะไรไว้ ต้องได้รับผล และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีความศักดิ์สิทธิ โดยเป็นเรื่องเกี่ยวข้องในหลายส่วน ที่กำลังพลร้องเรียนมา โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หลังเกิดเหตุรุนแรง เมื่อถามว่า ในส่วน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ถูกปรับย้ายด้วยหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เป็นกรณีไป ไม่ใช่เลือดเข้าตา ก็จะสั่งย้ายหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็มีความตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า การตั้งศูนย์ร้องเรียนสายตรงมายัง ผบ.ทบ.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เราให้ทางภาคเอกชนมาดำเนินการ (เอาท์ซอร์ซ) ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล ขนาดหน้าห้องตนยังไม่รู้เรื่องเลย ส่วนการพิจารณาว่า ข้อร้องเรียนไหนเป็นเรื่องจริง หรือใส่ร้าย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ฟังดูก็รู้แล้วว่าอะไรเท็จ อะไรจริง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. ตนจะให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงรายละเอียด ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ร่วมกับกรมธนารักษ์ กว่า 40 รายการนั้น ทุกอย่างดำเนินการตามลำดับ ไม่ได้ขีดเส้นหรือกำหนดกรอบเวลาแต่อย่างใด เมื่อถามถึงกรณีที่มีนักกฎหมายแนะนำญาติผู้เสียหาย ฟ้องร้องกองทัพ และ ผบ.ทบ. พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การก่อเหตุเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่คำสั่งกองทัพ หากทหารมีเรื่องกับทหาร ต้องขึ้นศาลทหาร แต่ถ้าหาก ทหารมีเรื่องกับพลเรือน ต้องขึ้นศาลพลเรือน ต้องแยกให้ออก