ศาสตราจารย์ ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์ราม รามสูต หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยแอนติบอดี และหัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์สังคมและสิ่งแวดล้อม คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เข้ารับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2563 ในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2563 ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 22 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ศาสตราจารย์ ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์ราม สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี 2531 ปริญญาโท2ใบ ใบแรกคือ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (MPH) จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2535 และใบที่สองวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (Msc) จาก Swedish University of Agricultural Sciences ประเทศสวีเดน เมื่อปี 2542 และปริญญาเอกทางด้านจุลชีววิทยาจากสถาบันเดียวกัน เมื่อปี 2543 ศาสตราจารย์ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์ราม ได้เปิดเผยถึงผลงานวิจัยที่ภาคภูมิใจคือ "ยาชีวภาพแอนติบอดีมนุษย์สำหรับรักษาโรคไข้เลือดออก" ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2552 โดยร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ด้วยทุนวิจัยสนับสนุนจาก Japan International Cooperation Agency (JICA) และจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) รวมกว่า 70 ล้านบาท โดยได้สร้างห้องปฏิบัติการศูนย์วิจัยแอนติบอดีขึ้นที่ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการวิจัยโดยนำเม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยไข้เลือดออกของโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มารวมกับเซลล์ Myeloma ชนิดใหม่ แล้วนำมาคัดเลือกหาแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งไวรัสไข้เลือดออกได้ทั้ง4สายพันธุ์ แล้วนำมาทดลองในเชื้อไวรัสที่ก่อโรคจริงในคน พบว่าสามารถยับยั้งได้ทั้งหมด จากนั้นนำมาทดสอบในหนู และลิง ที่ถูกฉีดเชื้อไวรัสไข้เลือดออก 10 ล้านตัว พบว่าแอนติบอดีสามารถกำจัดไวรัสจนหมดภายใน 2 วัน จนเมื่อปี 2561 ได้มีบริษัท BSV Bioscience ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รวบรวมแอนติบอดีจากนักวิจัยทั่วโลก มาทดสอบในหนูดัดแปลงพันธุกรรมที่ถูกฉีดไวรัสทิ้งไว้ 1วัน พบว่าแอนติบอดีจากนักวิจัยไทยให้ผลดีที่สุด โดยสามารถรักษาหนูให้รอดชีวิตได้ 100% ประธานบริษัทจึงมาทำสัญญาลงทุนสู่เชิงพาณิชย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล โดยได้ผลิตระดับอุตสาหกรรม GMP และวางแผนที่จะทดลองกับคนปกติในปี 2564 และกับผู้ป่วยไข้เลือดออกในปีถัดไป ก่อนจะขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) และออกสู่ตลาดในปี 2569 ศาสตราจารย์ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์ราม กล่าวว่า สัญญาที่ลงนามร่วมกับบริษัท BSV Bioscience นั้นเป็นแบบให้สิทธิ (non exclusive) ในประเทศไทย ซึ่งเจ้าของผลงานสามารถนำมาต่อยอดผลิตและลงทุนทางการตลาดเองในประเทศไทยได้ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะสามารถใช้ยาชีวภาพแอนติบอดีมนุษย์สำหรับรักษาโรคไข้เลือดออกที่คิดขึ้นนี้ในราคาที่เข้าถึงได้ นอกจากนี้ 10 ปีที่ผ่านมา โครงการฯได้มีส่วนสร้างโอกาสทางการศึกษาและวิจัยให้กับนักศึกษาปริญญาโท-เอก ของมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ต่อยอดผลงานทำวิทยานิพนธ์จนสำเร็จการศึกษาถึงเกือบ 20 ราย จากผลงานวิจัยดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ส่งผลให้ ศาสตราจารย์ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์ราม รามสูต และคณะได้รับรางวัลผลงานวิจัย และผลงานประดิษฐ์คิดค้นดีเด่น สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์จากวช.ถึง3ครั้งคือปี 2553ปี 2557และ2559 จนมาได้รับรางวัลใหญ่ล่าสุด "นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ” ในปี 2563 นอกจากนี้ ผลงานวิจัยของศ.ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์ราม ยังได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการต่างประเทศมาแล้วกว่า70เรื่อง รวมทั้งจดสิทธิบัตร2ฉบับคุ้มครองใน11ประเทศ ศาสตราจารย์ ดร.นายสัตวแพทย์พงศ์รามกล่าวทิ้งท้ายว่า ทำงานวิจัยโดยใช้หลัก3ประการคือ "Be" "Do" "Have" Be เชื่อในภาพฝันที่ยิ่งใหญ่และเป็นภาพเป้าหมายที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก Do ลงมือทำตามภาพฝันทุกวันด้วยความมุ่งมั่นจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย Have ในที่สุดเป้าหมายสามารถกลายเป็นจริงได้ดั่งภาพฝัน ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ฯ มหาวิทยาลัยมหิดล