จากกรณีเมื่อช่วงกลางวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนยอดภูกระดึง กินพื้นที่ป่าเป็นบริเวณกว้าง เปลวได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าต้นสนสองใบและสนสามใบ ใบไม้แห้งปกคลุมพื้นดินหนาแน่น เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง และพ่อค้า แม่ค้า รวมทั้งลูกหาบ พร้อมนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งได้ช่วยกันเร่งสกัดไฟไม่ให้ลุกลามเข้าสู่พื้นที่รอบศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งเป็นจุดพักแรม ร้านอาหาร และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ ซึ่งระหว่างการเข้าดับไฟ เจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่กวางกำลังหนีตายจากไฟป่า เจ้าหน้าที่พยามเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่สำเร็จ กวางตกใจวิ่งหนีเตลิดไปอย่างไร้ทิศทางนั้น ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายอดิศร เหมทานนท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง รายสรุปสถานการณ์ไฟป่าครั้งนี้ว่า เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 08.30 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 มีไฟป่าเกิดขึ้นบริเวณซำขอนแดง ห่างจากขอบหน้าผาประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันสกัดไฟ แต่ด้วยสภาพความแห้งแล้งประกอบกับสภาพกระแสลมพัดแรงทำให้เกิดลูกไฟพัดลอยข้ามแนวกันไฟมาตกในพื้นที่บริเวณหลังแปห่างจากขอบหน้าผาประมาณ 400​ เมตร บริเวณผาเมษา และลามขึ้นหลังแปในช่วงเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ พร้อมประชาชนจิตอาสากว่า 100 คน พร้อมด้วยรถแทรกเตอร์ จำนวน 3 คัน รถน้ำ จำนวน 4​ คัน เข้าควบคุม โดยการทำแนวกันไฟและชิงเผากลับตามเส้นทางหลังแป - วังกวาง และเส้นทางหลังแป - หมากดูก – สระใหญ่เบื้องต้นสามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ประเมินพื้นที่เสียหายประมาณ 2,000 ไร่ พื้นที่เสียหายแบ่งตามแบ่งตามชนิดป่า ป่าสน - ป่าก่อ - และทุ่งหญ้า ต่อมาเวลา 17.00 น.​ ไฟป่าบริเวณเส้นทางผาหมากดูก ได้ข้ามแนวควบคุมและขยายตัวไปทางสระแก้ว จึงได้สั่งการให้แบ่งกำลังไปควบคุม โดยใช้วิธีทำแนวกันไฟและชิงเผากลับจากเส้นทางองค์พระพุทธเมตตา - สระแก้ว - สะพานหิน - สระอโนดาษ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการควบคุมไฟตลอดทั้งคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่เหนื่อยล้าอย่างมาก โดยถือว่าเป็นการสูญเสียพื้นที่ป่าสน เสน่ห์ของภูกระดึงจากสาเหตุไฟไหม้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการขยายวงของไฟป่าได้เริ่มลดลง และดับได้แล้วในบางจุด .