กระทรวงอุตสาหกรรม ประสาน 6 พันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน บูรณาการพัฒนาเอสเอ็มอี ครอบคลุมทุกมิติ มอบ SME D Bank เชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs กว่า 100,000 ราย เข้าถึงแหล่งเงินทุน อัตราดอกเบี้ยต่ำ ควบคู่กระบวนการเติมความรู้ หนุนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน กำหนดจัด 4 ครั้ง ส่งต่อโมเดลกระจายความสำเร็จทั่วไทย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ยกระดับการส่งเสริมความสามารถของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยเหลือและพัฒนาเอสเอ็มอี จึงมีนโยบายขับเคลื่อนการทำงานผ่านการประชุมสร้างเครือข่าย เชื่อมโยง เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยภายใต้“โครงการ หนุน SMEs ไทย ก้าวไกลไปด้วยกัน”กับ 6 หน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.),สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย,สภาเกษตรกรแห่งชาติ,สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกรวมกันมากกว่า 100,000 รายเข้าถึงกระบวนการเติม“ความรู้คู่เงินทุน”ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้มอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ SME D Bank เป็นแกนกลางหลักในการบูรณาการเชื่อมโยงร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ครอบคลุมทุกมิติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่จะก้าวไกลไปด้วยกัน ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษ เช่น “SME D ยกกำลัง 3” ของ SME D Bank และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 3% ต่อปีนาน 3 ปีแรก และฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันจาก บสย.3 ปี เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอน “การประชุมครั้งนี้ ยังเป็นเวทีให้ตัวแทนผู้ประกอบการจาก 6 หน่วยงานพันธมิตร แสดงความคิดเห็น และร่วมวางแนวทางพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะหน่วยงานภาครัฐนำกลับไปพัฒนาสนับสนุนเอสเอ็มอีได้ถูกต้องและตรงความต้องการของผู้ประกอบการมากที่สุด” สำหรับการจัดประชุมโครงการ หนุน SMEsไทย ก้าวไกลไปด้วยกันกำหนดจัด 4 ครั้ง ซึ่งในวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาถือเป็นครั้งแรกในพื้นที่ภาคกลางที่อาคารสำนักงานใหญ่ SME D Bank เพื่อประกาศความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 6 แห่ง ที่ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เกิดการพัฒนายกระดับสินค้าและบริการ สร้างงาน สร้างรายได้ กระจายสู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและกำหนดการลงพื้นที่อีก 3 ครั้งครอบคลุมทั่วประเทศต่อเนื่องได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี, ภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่” โดยจากความร่วมมือครั้งนี้นอกจากจะสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการแล้ว ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะ SME D Bank ที่มีพันธกิจหลักในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบาล มีกระบวนการเติมความรู้ คอยช่วยเหลือผู้ประกอบการตลอดเส้นทางธุรกิจ ให้สามารถเติบโตอย่างเข้มแข็ง สร้างรายได้