เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 16 ก.พ. 63 ร.ต.อ.สุทธา อินทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.บางคอแหลม รับเเจ้งเหตุรถประจำทางชนคนข้ามถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส ช่วงทางโค้งใต้สะพานลอยตรงข้ามตลาดอินดี้สุขสวัสดิ์ ถนนสุขสวัสดิ์ ปากซอย 1 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน จากการตรวจสอบช่องทางเดินรถที่ 4 ทางขวาสุด ช่วงใต้สะพานลอยคนข้าม พบร่างชายนิรนาม อายุ 20-25 ปี ผิวขาว ไว้ผมรองทรงย้อมสีน้ำตาล สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ นอนหมดสติหายใจรวยรินอยู่บนพื้นการจราจร ในสภาพศีรษะแตกเลือดทะลักเต็มพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันทำ CPR ปั๊มหัวใจกระตุ้นจนสัญญาณชีพกลับมา ก่อนนำตัวส่ง รพ.บางปะกอก 1 ให้แพทย์ยื้อชีวิตอย่างเร่งด่วน ส่วนรถคู่กรณี เป็นรถประจำทางสาย ปอ.37 ยี่ห้อฮีโน่ สีส้ม ทะเบียน 13-0239 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 5-45033 วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางระหว่าง บางปะกอก-มหานาค จอดอยู่บริเวณช่องทางเดินรถเลนที่ 3 ห่างจากจุดพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บกันไปทางด้านหน้า 5 เมตรในสภาพกระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายมีรอยแตกจากการกระแทกที่ศีรษะผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างจังเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวน นายปกรณ์เกียรติ ปิติรัตโนปกรณ์ อายุ 44 ปี โชเฟอร์ ซึ่งยืนรอให้การกับตำรวจ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากตลาดมหานาค รับผู้โดยสารมาประมาณ 2-3 คน กำลังมุ่งหน้าไปทางแจงร้อนย่านบางปะกอก พอถึงจุดเกิดเหตุหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 1 ซึ่งเป็นทางโค้งก่อนถึงสะพานลอยคนข้ามไม่เกิน 50 เมตร ตนก็ขับรถเร่งเครื่องมาตามถนนเลนที่ 2 จู่ๆ ก็พบผู้ได้รับบาดเจ็บวิ่งข้ามถนนมาจากทางฝั่งหน้าตลาดอินดี้ อย่างกระชั้นชิด ตนพยายามหักพวงมาลัยหลบแล้วแต่ไม่พ้นเนื่องจากรถเพิ่งออกจากทางโค้งทำให้รถพุ่งชนคนเจ็บอย่างจังจนร่างกระเด็นไปตกอยู่ในช่องทางเดินรถเลนขวาสุด "พอรวบรวมสติได้ก็รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ โทรแจ้งบริษัทประกันภัย และรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้ารถเอาไว้มอบเป็นหลักฐาน โดยตนนั้นขับรถประจำทางมานาน 25 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุชนคนแต่อย่างใด อย่างมากก็แค่เฉี่ยวชนกับรถชาวบ้านเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นคราวเคราะห์ เชื่อว่าเพราะตนเกิดปีเถาะ ซึ่งเป็นปีชงร่วมกับปีชวดพอดิบพอดี" นายปกรณ์เกียรติ กล่าว ด้าน ร.ต.อ.สุทธา เปิดเผยว่า ยังไม่เเจ้งข้อหากับฝ่ายใด จะเดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลและพยายามติดต่อญาติพี่น้องมาดูแล ในส่วนของโชเฟอร์นั้นจะเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมตรวจสอบภาพหลักฐานจากกล้องหน้ารถ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.