เกิดเหตุไฟไหม้บ้านชุมชนท้ายตลาดสดอำเภอละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งหนีตายจ้าละหวั่น ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน​ ฉีดน้ำดับไฟใช้เวลานานกว่า 3 ชม. จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบบ้านถูกไฟไหม้วอด 5 หลัง ทั้งเร่งช่วยตา-ยายพิการออกมาได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร วันนี้​ (16​ ก.พ.)​ ผู้​สื่อข่าว​รายงาน​ว่า​ เมื่อเวลา 18.30 น. (15 ก.พ.63) ร.ต.อ.อนุสรณ์ ศรีพรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ในชุมชนท้ายตลาดสดอำเภอละหานทราย โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงได้ประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลละหานทราย เทศบาลสำ ต.โรงใหม่ เทศบาลตำบลตาจง เทศบาลตำบลหนองตะครอง ใน อ.ละหานทราย รถดับเพลิงในพื้นที่ อ.ปะคำ และ อ.โนนดินแดง กว่า 10 คัน ร่วมระงับเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านเรือนประชาชน ชุมชนหลังหลังตลาดสดอย่างรุนแรงและลุกลามรวดเร็ว เนื่องจากบ้านปลูกติดกันและส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งช่วยกันฉีดน้ำดับไฟอย่างโกลาหล ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง ต่างพากันวิ่งขนย้ายข้าวของทรัพย์สินมีค่าออกมาได้บางส่วน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถช่วยเหลือสองตา-ยาย ซึ่งพิการตัดขาสองข้างไม่สมารถช่วยเหลือตัวเองได้ ออกมาจากบ้านที่ไฟกำลังลุกลามไหม้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาระงับเหตุเพลิงครั้งนี้นานกว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนถูกไฟไหม้เสียหายรวมจำนวน 5 หลัง ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ สอบถามนายณรงค์ สะท้านเทือน อายุ 76 ปี หนึ่งในผู้เสียหายถูก เล่าว่า ตนเองพักอยู่กับยายมณฑา สะท้านเทือน อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง (ตัดขา) เพียงสองคน ซึ่งบ้านที่อยู่นั้น ตนเช่าอาศัยมาปีกว่าๆ ตอนเกิดเหตุตากับยายตกใจมาก เพราะยายไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จึงได้แต่เรียกเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยตายายออกไปก่อน เพราะยายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ก็โชคดีที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ข้าวของหรือทรัพย์สินมีค่า หรือเอกสารต่างๆ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดแล้ว ด้านนายคารม คำพิฑูร นายอำเภอละหานทราย ได้กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่จัดหาที่พักชั่วคราวที่กองร้อย อส. ให้ผู้ประสบภัยได้พักอาศัยไปก่อน พร้อมทั้งจะได้เร่งรวบรวมข้อมูลรายงานทางจังหวัด พิจารณาให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป