เมื่อวันที่ 15 ก.พ.63 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีการล่ารายชื่อเพื่อไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการกดดันการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนยังไม่มีใครทราบได้ว่าผลคดีจะออกมาเช่นไรทุกคนควรรอฟังผลคำวินิจฉัยคือทางออกที่ดีที่สุด หากสร้างบรรทัดฐานโดยการล่ารายชื่อเพื่อกดดันของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทั้งๆที่ควรต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริงในคดีก็จะเกิดความเสียหายต่อกระบวนการได้ และที่บอกว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดให้มีการไต่สวนในประเด็นนี้จะเห็นได้ว่ายังมีช่องทางอยู่เพราะศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบการไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถยื่นพยานหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเมื่อ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้ นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนในประเด็นที่มีความกังวลว่าหากมีการยุบพรรคอนาคตใหม่อาจจะมีผลกระทบต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้หรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่เป็นการบิดเบือนข้อกฎหมาย เพราะหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริงสถานะความเป็น ส.ส. ยังคงมีอยู่เพียงแต่จะต้องหาพรรคการเมืองอื่นสังกัดภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายควรรอผลคำวินิจฉัย ไม่ควรกระทำการในลักษณะข่มขู่กดดันศาลรัฐธรรมนูญ