ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และญาติมากที่สุด เตรียมทำงานเชิงรุกเข้าชุมชนในโคราชให้ทั่วถึงกลุ่มที่ได้ผลกระทบ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีรมสุขภาพจิต กล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดบริการดูแลสุขภาพจิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาว่า ผลการดำเนินงานของทีมเยียวยาจิตใจในภาวะวิกฤติ หรือทีมเอ็มแคท ( MCATT) ในรอบ 6 วันมานี้ ได้ให้บริการดูแลตรวจคัดกรองปัญหาสุขภาพจิต ในกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบตามแผนการที่กำหนด ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 8-13 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ที่มีความเครียดสูง ต้องได้รับการดูแลประคับประครองจิตใจอย่างต่อเนื่องรวมทั้งหมด 274 คน คิดเป็นร้อยละ 13.09 ของจำนวนที่ได้รับการตรวจทั้งหมด 2,093 คน โดยเป็นกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิต กลุ่มผู้บาดเจ็บ และญาติมากที่สุด จำนวน 118 คน เป็นกลุ่มผู้ที่อยู่ภายในห้างเทอร์มินอลและผู้ที่เห็นเหตุการ์ในวันเกิดเหตุ จำนวน 114 คน ที่เหลืออีก 42 คน เป็นประชาชนที่เครียดจากการติดตามข่าวสารตามสื่อต่างๆตั้งแต่วันเกิดเหตุ ในส่วนของการดูแลผู้ประสบเหตุการณ์ครั้งนี้ ดำเนินการในกลุ่มของญาติผู้เสียชีวิตและกลุ่มที่บาดเจ็บและญาติครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนในกลุ่มที่ต้องเร่งดำเนินการให้ครบถ้วนโดยเร็ว คือ ตัวประกัน กลุ่มผู้อยู่ในห้างเทอร์มินอล 21 และผู้เห็นเหตุการณ์ที่จุดเกิดเหตุอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ จัดบริการได้ถึงตัว ได้ร้อยละ 39 หรือประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนที่คาดว่าจะมีประมาณ 1,800 คน “ในวันนี้ กรมสุขภาพจิต ได้ปรับแผนการทำงานเชิงรุกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ได้ตั้งคลินิกหมอใจภาคสนาม ประจำที่ห้างเทอร์มินอล 21 คล้ายเป็นรพ.จิตเวชขนาดย่อย ตั้งอยู่ที่ชั้น G ของห้าง จัดผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ทั้งจิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาลจิตเวช เภสัชกร เป็นต้น พร้อมเวชภัณฑ์ยาจำเป็น และรถพยาบาล ในเบื้องต้นประจำการ 2 สัปดาห์ก่อน เพื่อบริการทั้งตรวจความเครียด ปรึกษาปัญหาทางจิตใจต่างๆ ฟรี เพื่อเป็นเพื่อนใจให้แก่ผู้ที่อยู่ภายในห้างทุกคนทั้งผู้ประกอบการ ผู้ที่เข้าไปช็อปปิ้ง ตลอดวันทำการอย่างเต็มที่ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งให้รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์สำรองเตียงไว้ 20 เตียง เพื่อรองรับในรายที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นกรณีพิเศษ และสามารถขยายเพิ่มได้อีกหากจำเป็น” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว สำหรับส่วนที่ 2 คือ การเร่งขยายผลบริการให้ครอบคลุมชุมชนในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จัดบริการตรวจคัดกรองความเครียดใกล้บ้านที่สุด คือ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่ง รวมทั้งให้อาสาสมัครสาธารณสุขสุข ร่วมค้นหาผู้ที่มีปัญหาทางจิตใจหลังเกิดเหตุการณ์ เพื่อส่งเข้ารับการตรวจประเมินที่รพ.สต. และจัดระบบการดูแลรายที่มีอาการรุนแรงอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานที่กำหนด สำหรับการดูแลจิตใจในช่วงนี้ หลังจากเหตุคลี่คลายไปแล้ว ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ สามารถไปเที่ยวพักผ่อนที่ห้างสรรพสินค้าได้เหมือนเดิม ผู้ที่มีโรคประจำตัวทั้งทางกายและทางจิต ขอให้กินยาอย่างต่อเนื่อง อย่าขาดยา ในส่วนของประชาชนทั่วไป หากประชาชนรายใด มีอาการไม่สบายใจ เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ฝันร้าย เห็นภาพร้ายๆ ผุดขึ้นมาบ่อยๆ หรือได้ยินเสียงเหตการณ์วนเวียนก้องอยู่ในหูบ่อยๆ รู้สึกไม่อยากพูดคุยกับใคร อารมณ์หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย หายใจไม่ค่อยอิ่ม อย่าทนอมทุกข์ไว้ เนื่องจากจะทำให้ความเครียดสะสม ขอให้ไปรับบริการที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง รวมทั้งที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ หรือโทรขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ หมายเลข 044-233-999 หรือที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว