AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โชว์ผลประกอบการในปี 62 จากงบเฉพาะกิจการ มีรายได้กว่า 7,077 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิกว่า 421 ล้านบาท ใจป้ำเตรียมจ่ายเงินปันผลอีกในอัตรา 1.40 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 2562 จ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 1.90 บาทต่อหุ้น พร้อมตุน Backlog กว่า 7,800 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอใบคำสั่งซื้อกว่า 200 ล้านบาท หวังสร้างผลงานปี 63 เติบโตต่อเนื่อง นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2562 เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และจากงบเฉพาะกิจการ บริษัทมีรายได้ 7,077 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% ถือว่าทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท มีกำไรสุทธิ 421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 275 ล้านบาท ซึ่งมาจากขีดความสามารถในการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยสามารถทยอยส่งมอบงานให้แก่ลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ตามกำหนด ทั้งนี้เพื่อสะท้อนหุ้น AIT เป็นหุ้นกลุ่มปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 13 ก.พ.63 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้อนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 1.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น ทำให้ในปี 2562 AIT จ่ายเงินปันผลในอัตรา 1.90 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 พ.ค.63 “แม้ว่าผลการดำเนินงานในปี 2562 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันในตลาดที่รุนแรง ประกอบกับมีต้นทุนบริหารองค์กรที่สูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรสุทธิปี 2562 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจในลักษณะเดียวกัน ยังถือว่า AIT มีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่าอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยดังที่เคยเป็นมาในอดีต ดังนั้นจึงเชื่อว่า AIT ยังคงเป็นหุ้นปันผลที่ดีที่เป็นทางเลือกที่ดีของการลงทุนในยามที่ภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง” สำหรับในปี 2563 AIT มีรายได้เป้าหมายที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นรับงานขายที่จะช่วยผลักดันอัตราผลกำไรให้สูงขึ้น ปรับองค์กรเพื่อรองรับเทคโนโลยีและวิธีการขายรูปแบบใหม่ให้กลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้มูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 11 ก.พ.63 มีจำนวนทั้งสิ้น 7,827 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2563 และปีต่อๆไป