พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)เปิดเผยว่า ในการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 2/2563 สรุปผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของ กอ.รมน.(ส่วนกลาง) และผู้แทนของ กอ.รมน.ภาค 1 - 4 เข้าร่วมประชุมโดยมี พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธานการประชุม โดยในที่ประชุมศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.5 กอ.รมน.) ประชุมหารือร่วมกับสำนักเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(สล.คปต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการแลกเปลี่ยนถังแก๊สเหล็กเป็นถังแก๊สคอมโพสิต ซึ่งที่ประชุม มีมติเห็นชอบให้ กอ.รมน. ขยายระยะเวลาการแลกเปลี่ยนถังแก๊สออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค. 62 – 30 ก.ย. 63 และขอให้ใช้กฎหมายปกติ ส่วนในการดำเนินการแลกเปลี่ยนถังแก๊ส โดยให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก เนื่องจากกระทรวงพลังงานมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายปกติ ในการกำกับดูแลกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งกรมธุรกิจพลังงาน มีบทบาทต่อผู้ค้าแก๊ส ตามพ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 มาตรา 7 ของทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน), บริษัทยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด, บริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโคเคมิคัลส์ จำกัด และ บริษัทดับบิวพีเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด โดยให้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วยทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแลกเปลี่ยนถังแก๊ส มีความคืบหน้าและเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะมีการประชุมหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน และขออนุมัติคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(คปต.) นำไปปฏิบัติต่อไป