สูงสุดวังทองหลาง ตามด้วยปากน้ำ อ้อมน้อย เชียงใหม่ที่ 16 ชี้ลมหนาวมาพาฝุ่นสะสม ต้องรอแดดจัดลมแรงมาช่วยไล่ กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่กทม.และปริมณฑลวันที่ 12 ก.พ.63 เวลา 08.00 น. พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยตรวจพบค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 38-69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) จำนวน 30 พื้นที่ ค่าฝุ่นสูงสุดที่เขตวังทองหลาง 69 ไมโครกรัมฯ ตามด้วย ปากน้ำ 65 ไมโครกรัมฯ อ้อมน้อย 63 ไมโครกรัมฯ เขตบางขุนเทียน เขตปทุมวัน เขตดินแดง เขตบึงกุ่ม เขตคลองสามวา เขตจอมทอง เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตบางรัก เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตสายไหม เขตบางกะปิ เขตลาดกระบัง เขตประเวศ เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตพระนคร เขตคลองเตย เขตหลักสี่ เขตบางเขน พระประแดง จ.สมุทรปราการ ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ด้าน www.airvisual.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษโลก โดยรายงานแบบเรียลไทม์ วันที่ 12 ก.พ.63 เวลา 08.12 น. พบว่า เช้านี้เมืองกทม. อยู่ในลำดับที่ 23 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 152 US AQI และเมืองเชียงใหม่ อยู่ในลำดับที่ 16 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 126 US AQI เพจหนุ่มสรรเสริญ เรืองฤทธิ์ สำนักการระบายน้ำ กทม. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ “12 ก.พ.63 ลมหนาวแผ่ลงมาเบาๆ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลมหนาว กรุงเทพมหานคร มีฝุ่น PM2.5 สะสมได้มากขึ้น คุณภาพอากาศไม่สู้ดีนัก ต้องรอให้มีแดดจัด ๆ ลมแรง ๆ มาช่วยไล่ฝุ่น ภาคใต้ตอนล่างระวังฝนตกหนัก อากาศเปลี่ยนแปลง รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ เราสร้างฝุ่น PM2.5 ขึ้นมาทุกๆ วัน ช่วงที่มีลมพัดมา คุณภาพอากาศก็จะดีหน่อย แต่ช่วงใดที่อากาศจมตัว และลมแผ่วลงไป ฝุ่นจะพร้อมปรากฎตัวทันที”