ผช.ผบ.ตร.ยื่นสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผอ.กอล์ฟ ฆ่าชิงทองร้านออโรร่า ลพบุรี อัยการมั่นใจส่งฟ้องทันฝากขัง หลังรับสำนวน 1,600 กว่าหน้า พร้อมค้านประกันขอศาลลงโทษสถานหนัก แม้ ผตห.รับสารภาพ วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.30 ที่ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 11 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา จัดการแถลงข่าวส่งมอบสำนวนนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ห้างทองออโรร่า โรบินสัน จ.ลพบุรี โดยมีนายพรชัย ชลวานิชกุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาทโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. เข้าร่วมแถลงข่าวด้วย พร้อมด้วยสำนวนจำนวน 4 แฟ้ม เป็นเอกสาร 1,665 หน้า ประกอบด้วยแผ่นซีดีและภาพวงจรผิด โดยแจ้งข้อกล่าวหาข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 2.พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 3.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส 4.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน 5. พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต 6.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 7.มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ 8.ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์ และ 9. มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ระบุว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน ซึ่งอัยการสูงสุดก็ได้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด และให้ดำเนินกระบวนการสั่งคดีด้วยความรวดเร็ว หลังจากนี้ตนก็จะตั้งคณะทำงานโดยมีอัยการจากสำนักงานคดีอาญา6 เป็นคณะทำงาน มี นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสั่งคดีได้ทันในระยะเวลากำหนดฝากขังครั้งที่3 ด้าน นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวว่า ยืนยันว่าหากมีการฟ้องคดี อัยการจะมีการยื่นคัดค้านการประกันตัวจนคดีถึงที่สุด และจะขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก แม้จำเลยจะรับสารภาพ ด้าน พ.ต.อ.สมควร รอง ผบก.ป.ได้ระบุว่า ผู้ต้องหาคดีนี้ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยรูปคดีที่ได้จากการสอบสวน พบว่าผู้ต้องหาได้กระทำการเพียงคนเดียว ซึ่งตามสำนวนมีพยานทั้งสิ้น 80 ปาก หากภายหลังยื่นฟ้องคดียืนยันว่าจะติดตามพยานมาให้อัยการเพื่อสืบพยานให้ครบตามที่อัยการต้องการนำเสนอต่อศาล ส่วนของกลางที่ยึดได้ คือทองคำ 31เส้น (มูลค่าราว 650,515บาท) โดยมีทองคำที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่า ทิ้งและตกหล่นไป 2 สลึง ด้าน นายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะเข้ามาเป็นโจทย์ร่วมว่าว่าทางครอบครัวของผู้เสียหายสามารถที่จะมาพบกับอัยการสำนักงานคดีอาญา6 ซึ่งดูแลสำนวนคดีเพื่อจะยื่นคำร้องต่อศาลในการของเข้าเป็นโจทก์ร่วมเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 44/1 ด้าน พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า จะรับเรื่องที่จะไปประสานกับญาติของผู้เสียหายให้ทราบข้อมูลและขั้นตอนการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อจะให้ผู้เสียหายเกิดความสะดวก พร้อมรับปากว่าจะติดตามพยานมาให้อัยการได้ตามที่ครบทุกปาก