กรมสุขภาพจิตส่งทีมเอ็มแคทดูแลเต็มพิกัด แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก พบ 9 ราย หวาดกลัวรุนแรงมาก จนนอนไม่หลับ พร้อมเปิดสายด่วนปรึกษา 24 ชม. เมื่อวันที่ 11 ก.พ.63 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุกราดยิงที่จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาตัวอยู่ที่รพ.มหาราชฯ 21 คน และเยี่ยมให้กำลังใจทีมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการดูแลช่วยเหลือประชาชนทั้งทางกายและใจ โดยมีนพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการรพ.มหาราชนครราชสีมา และนพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการรพ.จิตเวชนครราชสีมา ต้อนรับ นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้บาดเจ็บและญาติพบว่า ทุกคนมีขวัญกำลังใจดีขึ้น บางคนยังวิตกกังวลอยู่บ้าง โดยในส่วนของการดูแลผลกระทบทางจิตใจในภาพรวม กรมสุขภาพจิตได้ระดมทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาะวิกฤติหรือทีมเอ็มแคท (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) ทั้งในและนอกสังกัด 15 ทีม รวม 73 คน มีผู้เชี่ยวชาญทั้งผู้ใหญ่ เด็ก และวัยรุ่น ให้การดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุครั้งนี้ โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการทีมเอ็มแคทฉุกเฉินอยู่ที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ มีนพ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นผู้บัญชาการศูนย์ และมีนพ.กิตต์กวี โพธิ์โน เป็นผอ.ศูนย์ฯ เพื่อให้การทำงานครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สภาพจิตใจของประชาชนฟื้นคืนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วและปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ ได้จัดแผนดูแลเป็น3 กลุ่มหลัก ปฏิบัติงานเต็มพิกัด กลุ่มที่ 1 กลุ่มครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้รอดชีวิต และบาดเจ็บ รวม 88 คน ประกอบด้วยครอบครัวของผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 58 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บขณะนี้ รักษาและกลับบ้านแล้ว 33 คน ยังเหลือนอนพักรักษาตัวที่รพ.25 คน ทีมเอ็มแคทได้ดูแลจิตใจกลุ่มนี้ทั้งหมดแล้ว ผลการประเมินสภาวะทางจิตใจในรอบ 3 วัน ระหว่าง 8-10 ก.พ.63 ตรวจทั้งหมด 247 คน พบเครียดในระดับสูง 91 คน ในจำนวนนี้ พบมี 9 คน มีอาการหวาดกลัวรุนแรง นอนไม่หลับ ต้องให้การรักษาเพื่อคลายเครียด อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่และติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่เหลืออีก 156 คนเครียดระดับน้อยถึงปานกลาง ได้ให้การปฐมพยาบาลทางใจและปรึกษาคลายเครียด และจะติดตามประเมินเป็นระยะๆ ตามแผน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับในกลุ่มผู้เสียชีวิต30 ราย ซึ่งมีภูมิลำเนาใน 9 จังหวัด ดังนี้ จ.นครราชสีมา 20 ราย กทม. 2 ราย สมุทรปราการ 1 ราย นราธิวาส 1 ราย บุรีรัมย์ 2 ราย ที่ราชบุรี สมุทรสาคร อุดรธานี และสกลนคร จังหวัดละ 1 ราย ได้จัดระบบดูแลจิตใจของครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้รพ.จิตเวชที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งรพ.ในพื้นที่ให้การดูแลร่วมกัน ไปจนกว่าจะหมดความเสี่ยงและกลับคืนสู่สภาวะปกติ มาตรการดูแลในกลุ่มที่ 2 ได้แก่ ผู้อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น ทำงานในห้างเทอร์มินอล 21 นักเรียนที่ไปจัดกิจกรรมในห้าง กลุ่มนี้จะเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจและตรวจคัดกรองหาผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดผลกระทบเพื่อเยียวยาต่อไป และกลุ่มที่ 3 คือ ประชาชน ที่ถูกช่วยออกมาจากห้างในคืนที่เกิดเหตุ ซึ่งได้จัดจุดให้บริการ 2 แห่ง คือ ในรพ.มหาราชฯและที่รพ.จิตเวชโคราช หรือสามารถขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือปรึกษาที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ หมายเลข 044-233999 ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน โดยมีผู้มาขอคำปรึกษาด้วยอาการตกใจง่าย หวาดผวา นอนไม่หลับ ที่ รพ.มหาราชฯ และ รพ.จิตเวชฯ 8 คน นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผอ.รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ กล่าวว่า วันนี้ ได้จัดทีมเอ็มแคท 8 ทีม ออกปฏิบัติงานเยียวยาที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21, รพ.ป.แพทย์, รพ.ค่ายสุรนารี, รพ.เซนต์แมรี่,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และทีมลงชุมชนต่างๆ ต่อเนื่อง สำหรับการปฏิบัติงานของทีมเอ็มแคทในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ.63 จำนวน 15 ทีม ปฎิบัติการในพื้นที่ 12 จุด ทั้งในสถานที่ที่เกิดเหตุและใกล้เคียง ได้แก่ ที่รพ.มหาราชจ.นครราชสีมา ห้างเทอร์มินอล 21 ชุมชนท่าตะโก ชุมชนโพธิพันธ์ ชุมชนอรุณสามัคคีโชคดี ชุมชนโนนฝรั่ง วัดดอนขวาง วัดป่าศรัทธารวม วัดคลองไผ่ ชุมชนหนองปรุ บ้านพักของผู้ก่อเหตุในโคราช และที่บ้านที่จ.ชัยภูมิด้วย ซึ่งจะประเมินผลการดำเนินงานทุกวัน